ประสบการณ์ใช้จริง 1 เดือนกว่าๆ แบบเต็มๆ ใส่อย่างต่ำวันละ 10 ชั่วโมง
==================================
รีวิวสรุปแบบโคตรสั้น คือ เสียงดีโดยเฉพาะเบสแน่น แบตอึด ตัดเสียงรบกวนได้ดี ใส่แล้วเจ็บช่วงอาทิตย์แรกหลังจากนั้นสบาย ไมค์ไม่ดีเท่าไหร่ มีระบบควบคุมที่หูฟัง ซื้อแล้วคุ้มแน่นอน ยิ่งตอนลดราคา ยิ่งโคตรคุ้ม
==================================
รีวิวแบบละเอียดเล่าแบบยาวๆ
ต้องเล่าก่อนว่าเคยใช้หูฟังตามร้านทั่วๆ ไป 200-300 บาท จนมาถึงปีที่แล้วลองซื้อ sennheiser hd206 มาใช้ทำให้รู้สึกว่า หูฟังพอราคาแพงขึ้นมาก็ทำให้การฟังเพลงมันสนุกขึ้น มีมิติในการฟังขึ้นสบายขึ้น ไม่เจ็บหูเวลาใส่นานๆ แต่ว่าพอใส่ได้สักเกือบๆ ปี หูฟังมันก็ลอก ประกอบกับอยากได้หูฟัง ที่มีระบบ Noise Cancelling ก็เลยลองศึกษาหาหูฟังรุ่นต่างๆ ดูรีวิวจากเว็บดังต่างๆ แล้วมาจบที่ตัว audio-technica ATH-WS990BT ตัวนี้
audio-technica ATH-WS990BT ตัวนี้เริ่มวางขายช่วงต้นปี 2018
จุดเด่นของหูฟังรุ่นนี้คือทาง audio-technica เขาเคลมว่า SOLID BASS ที่ให้เสียงเบสอัดแน่นเต็มๆ แล้วก็มีระบบ Noise Cancelling และระบบ Hear through ที่ทำให้เราไม่ต้องถอดหูฟังเวลาจะคุยกับคนอื่น กับแบตเตอรี่ที่อยู่ได้ประมาณ 20-25 ชั่วโมง และก็เป็นระบบ Bluetooth® version 4.1 และให้เสียงแบบ Hi-res แต่เราเสียบสายหูฟังเท่านั้น
ของที่มีมาในกล่องนอกจากตัวหูฟังที่แพ็คมาอย่างดีแล้ว ก็มีสายหูฟังหัวตัว L ขนาด 3.5 mm ยาวประมาณ 1 เมตร สาย micro USB ยาว 15 เซนติเมตร กระเป๋าหนังใส่หูฟังแบบรูดเชือก 1 ใบ แล้วก็คู่มือการใช้งาน
วัสดุงานประกอบดี สวยสะดุดตา วัสดุหูฟังพลาสติกด้านแกนโครงหูฟังเป็นโลหะ มีลูกเล่นดีมีส่วนเงาส่วนด้านสวยงาม มีฟองน้ำหุ่มด้วยหนังนิ่มๆ
การควบคุม หูฟังนี้จะมีปุ่มกดที่หูฟังข้างซ้ายเรียงกัน มี ปุ่มแบบสไลด์เปิด-ปิด Bluetooth, ปุ่มสไลด์เพิ่มเสียง(สไลด์ขึ้นค้างไว้เพื่อไปเพลงถัดไป) ลดเสียง(สไลด์ลงค้างไว้เพื่อย้อนกลับไปเพลงก่อนหน้า) และกดลงเพื่อเล่น-หยุดเพลง หรือรับสาย, และสุดท้ายเป็นแท็ปสัมผัสไฟสีเขียวแตะ 2 ครั้งติดกันเพื่อเปิดหรือปิดระบบ Noise Cancelling (เปิดไฟจะขึ้นสีเขียว) และแตะค้างเพื่อเปิดหรือปิด ระบบ Hear through(เมื่อเปิดระบบ Hear through ไฟสีเขียวจะกระพริบช้าๆ เป็นสัญญาณ)
============================
รีวิวแบบละเอียด
เนื่องจากผมประสบการณ์น้อย ไม่ได้เป็นนักดนตรี แล้วหูก็ไม่ได้เทพ เลยไม่อาจจะเจาะลึกเรื่องตัวโน๊ตหรือย่านเสียงอะไรได้นะ
ของแถมที่มีมาในกล่องนอกจากตัวหูฟังที่แพ็คมาอย่างดีแล้ว ก็จะมีสายชาร์ต microUSB
ข้อดี
สวมใส่ครั้งแรกรู้สึกว่ามันเบากว่าที่คิดมากเลยครับ สบายชิลมาก ฟองน้ำหูฟังเป็นแบบสองชั้นชั้นนอกจะนิ่มๆ และชั้นข้างในจะแข็งกว่านิดหน่อยหุ้มด้วยหนังนิ่มๆ ทำให้ใส่สบายเก็บเสียงได้ดี ระบบ Noise Cancelling กันเสียงโดยรอบ ไปได้เยอะสัก 70%-80% (ส่วนมากจะตัดพวกเสียงต่ำๆ ได้ดี อย่างเสียงรถวิ่ง เสียงแอร์ เสียงตอนรถไฟฟ้ากำลังวิ่ง) ทำให้เราฟังเพลงได้ชัดเจน ซึ่งปกติผมเปิดความดังไม่เกิน 50% แค่นี้เพลงก็ดังประมาณนึงแทบไม่ได้ยินเสียงข้างนอกแล้ว ระบบ Hear through ก็ดีมาก ช่วยให้เราฟังเสียงจากภายนอกได้โดยไม่ต้องถอดหูฟังออก เพราะไมโครโฟนจะทำหน้าที่ในการดูดเสียงเข้ามา และระบบจะเบาเสียงเพลงอัตโนมัติ
แบตอยู่นานดีผมใส่ไปทำงานออกจากบ้านเปิด Bluetooth และ Noise Cancelling ตลอดจนถึงหัวค่ำเข้าห้องถึงปิดแล้วเสียบสายหูฟัง ระบบก็จะปิด Bluetooth โดยอัตโนมัติ แต่ Noise Cancelling ต้องปิดเองนะ เพราะมันเปิดตลอดก็ได้ เฉลี่ยผมก็ชาร์ตมาประมาณ 2-3 วันครั้งนึง ใช้เวลาชาร์ต 0%-100% อยู่ที่ 5 ชั่วโมง แต่เอาจริงๆ ถ้ามันร้องเตือนแบตจะหมดฉุกเฉิน เสียบชาร์ตสัก 15 นาทีก็ฟังได้ 2-3 ชั่วโมง
การเชื่อมต่อ Bluetooth สามารถต่อได้ทีละ 1 เครื่อง สัญญาณ Bluetooth ค่อนข้างเสถียร บางครั้งก็มีเสียงกวนดังบ้างนานๆ ครั้ง เดินออกห่างจากเครื่องได้ประมาณ 10 เมตร สัญญาณจะเริ่มขาดและมีเสียงร้องเตือน
เรื่องเสียงออกมาดีมาก เสียงร้อง เสียงเครื่องดนตรีแยกได้ชัดเจน เสียงช่วง สูง กลาง ออกมาดี แต่ที่ดีมากคือเบสฟังสนุกมากตุบๆ มาเป็นลูกๆ ชัดเจน เสียงเบสเสียงกลองแน่นดีมาก เปิดประสบการณ์ใหม่ของผมเลย เข้าใจที่เขาบอกกันว่าได้ยินเสียงที่ปกติไม่ได้ยินอะไรแบบนั้นเลย แนวเพลงที่ผมฟังก็กว้างๆ ฟังหมด แต่จะเน้นไปทางเป็น R&B, Hip-Hop, Lofi, Ballad, EDM ซึ่งก็ถูกใจมากฟังเพลงสนุกขึ้นเยอะ และหูฟังตัวนี้มีระบบเสียงแบบ Hi-res ด้วย แต่ต้องเสียบสายฟังเท่านั้นถึงจะเป็นการใช้งาน Hi-res
การควบคุมหูฟังตอนแรก สักพักพอจำได้ก็สะดวกมาก แต่จะไม่สามารถใช้ปุ่มควบคุมได้เมื่อเสียบสายหูฟัง เพราะจะเป็นการปิดระบบ Bluetooth โดยอัตโนมัติ เหลือแต่แทบสัมผัสใช้เปิดปิด Noise Cancelling เท่านั้นที่ทำงานอยู่
ข้อเสีย
อย่างแรกคือไมโครโฟนมันไม่ดีเท่าไหร่ คุยโทรศัพท์พอได้ แต่มันดูดเสียงโดยรอบเข้าไปด้วย เสียงบรรยากาศแทรกมาเยอะพอสมควร ฟองน้ำหูฟังกว่าจะเข้ารูปก็สักอาทิตย์นึงได้ อาจจะเพราะผมหูแข็ง หูกางนิดหน่อยด้วยมั้ง บางวันหูก็แดงๆ ช้ำๆ บางทีก็จะรู้สึกว่ามันกดช่วงหลังหูกับกรามบนนิดนึง แต่พอผ่านช่วงอาทิตย์แรกไปก็ใส่สบายแล้ว สายชาร์ตที่เป็น microUSB สั้นมาก น่าจะสัก 15 เซนติเมตร ใช้ไม่ค่อยได้ แต่สวยดีมีโลโก้ audio-technica สายหูฟังที่ให้ก็สั้นประมาณ 1 เมตร ตอนเสียบกับมือถือใช้งานพอได้ แต่ถ้าเสียบกับคอมก็ต้องคอยระวังกระชากสายหลุด และหูฟังตัวนี้ไม่มีระบบกันน้ำใช้ใส่ออกกำลังกายเหงื่อโทรมๆ ไม่ได้
ราคาโหดใช้ได้ (สำหรับตัวผมนะ) ราคาเต็ม 9900 แต่ก็ชดเชยมาด้วยการซื้อตอนลดราคา
============================
สรุป
เป็นหูฟังที่เพิ่มประสบการณ์การฟังเพลงที่ดีมาก เสียงดีโดยเฉพาะเบสแน่น เสียงช่วงอื่นๆ ก็ออกมาฟังสบายดี แบตอยู่ได้นาน ตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้เยอะ ใส่แล้วเจ็บช่วงอาทิตย์แรกหลังจากนั้นสบาย มีระบบควบคุมที่หูฟัง ไมค์ไม่ดีเท่าไหร่ แนะนำให้ซื้อตอนลดราคาคุ้มมากๆ
============================
SPECIFICATIONS
DRIVER DIAMETER: Closed-back dynamics 53mm
FREQUENCY RESPONSE: 5 to 40,000Hz
IMPEDANCE: 30Ω (when noise cancellation is not used); 150Ω (when noise cancellation is used)
CHARGING TIME: About 5 hours
CONTINUOUS COMMUNICATION (WHEN MUSIC PLAYBACK): approx. 25 hours (Bluetooth, with noise cancellation activated); approx. 30 hours (with only Bluetooth); approx. 35 hours (with only noise cancellation)
WEIGHT: Approximately 300g
ข้อมูลจะถูกนำออกทำให้ไม่สามารถอ่านได้อีกน่าเสียดายมากเลย
แน่ใจแล้วหรือที่ต้องการลบข้อมูลออก
หากยืนยันแล้วจะไม่สามารถกู้คืนมาได้อีกนะ!