Fanpage หรือ portfolio ในโลกออนไลน์ ดีอย่างไร?
วันที่โพสต์: 10/08/2015
โดย: Nanshu29


ก่อนอื่นต้องกล่าวถึง Fanpage หรือการมี Portfolio ในโลกออนไลน์ เมื่อในอดีตสำหรับอาชีพนักผลิตผลงานจะรู้จักคำว่า  Portfolio เป็นอย่างดีหรืออีกนัยหนึ่งมันคือแฟ้มสะสมงานที่เราต้องแบกไปไหนมาไหนแล้วยื่นให้ผู้จ้างดูผลงานของเรา

แต่ทว่าสมัยนี้หรือยุคนี้ทั้งหมดทั้งมวลมันได้เปลี่ยนไปแล้ว  Portfolio ในอดีตที่เราต้องยกไปไหนมาด้วยตัวเองนั้นตอนนี้อยู่ในโลกออนไลน์ของเรา ถ้าให้แนนเทียบแล้วทำให้นึกถึงว่า ตอนนี้โซเซียลเปรียบเสมือน... 

"โลกของเกมส์ที่ทุกคนสามารถสร้างคาแรคเตอร์ของตัวเองได้ เลเวลจะขึ้นไม่ขึ้นได้นั้นต้องผ่านประสบการร์การเก็บเวล ชั้นเชิงต่างๆนาๆที่เคยเจอมาทั้งสิ้นทั้งมีคนเสนอมาให้ทำ(สนใจงานก็เลยให้ทำงาน) กับเราทำการเก็บเควสเอง(เรายื่นเสนองานเอง)
หากเราต้องการอยากได้งานแบบไหนเราก็แค่สร้างคาแรคเตอร์ของเราขึ้นมาก็แค่นั้น... "

(และแน่นอนว่า คนที่เปิดรับงานในเพจแล้วรอคนมาจ้างกับคนที่เสนองานให้กับผู้จ้างจะได้ผลที่แตกต่างกันไปเช่นกัน)

แต่เราจะเล่นเกมส์แบบนั้นได้อย่างไรล่ะ...?  

1. การมีแฟนเพจเป็นของตัวเองเป็นสิ่งยืนยันได้ว่าคุณมีตัวตนและลูกค้านั้นสามารถที่จะเชื่อได้ว่าคุณนั้นมีตัวตนอยู่ แต่การยืนยันว่าคุณมีตัวตนนั้นคือคุณต้องมีลมหายใจ อย่างเช่น การเคลื่อนไหว บนเพจอยู่สม่ำเสมอ เดือนล่ะ 1-2 ครั้ง หรือมากกว่านั้นตามแต่เวลาที่มี 

2. ยอดไลค์หรือถูกใจมีผลต่อการทำงานของคุณหรือไม่ บางคนบอกว่าไม่มีผล แต่ที่แน่ๆ มีแน่นอนต่อเมื่อมันมีจำนวนมากพอจะมีพลัง บางคนอาจเข้าใจว่าคนไทยบางส่วนอาจจะกดไลค์เพื่อแสดงมารยาทว่ารับรู้แล้วแล้วก็จากไป 
แต่พลังการไลค์นั้นถึงจะเป็นเพียงแค่มารยาทแต่คือการจดจำหรือยืนยันว่าลูกเพจคนนั้นได้ผ่านสายตานั้นแล้ว และหนึ่งในร้อยหรือสิบในร้อยนั้นอาจจะสามารถเป็นผู้ซื้อผลงานของคุณหรือแนะนำตัวคุณให้กับนายทุนที่พอจะมีกำลังจ่ายและจ้างคุณทำงานด้วยนั่นเอง

3.ยอดวิวในเพจเป็นส่วนสำคัญในการบ่งบอกว่ามีคนเห็นและผ่านตากับเรื่องราวที่คุณโพส ตามข้อสองที่เคยโพสไป นอกจากยอดไลค์แล้วยอดวิวในเพจก็เป็นส่วนสำคัญเช่นกัน ร้อยทั้งร้อยของการโฆษณาในโลกนี้คือการผ่านสายตาให้คนจดจำมากที่สุด
หากสิ่งนั้นเขาจำได้หรือนึกได้ในเวลาที่จำเป็นนั่นคือความสำเร็จ ยกตัวอย่างเช่น แนนจะซื้อหนังสือกับ สนพ. หนึ่งแล้วปรากฎว่าเล่มนั้นหมด เนื่องจากได้โทรสั่งแล้วไม่อยากเสียเที่ยวจึงนึกได้ว่ามีข่าวถึงหนังสืออยู่เล่มที่ปรากฎในสื่อออนไลน์แนนก็เลยสั่งเล่มนั้นแทน และซึ่งการทำให้คนนึกถึงได้ในเวลาที่ไม่นานนั้นได้ผลมากเลยทีเดียวอาจไม่ใช่ทางใดทางหนึ่ง อาจไม่ใช่ผลของการได้ซื้อ แต่อาจเป็นการส่งผลให้นึกถึงไปสู่ท้ายบทความของข้อสองได้เช่นกัน

4.หากคุณต้องการจะขายบริการรับจ้างหรือขายขางต่างๆอย่างเช่น ขายภาพวาด หนังสือ หรือบริการวาด สิ่งที่คุณต้องมีในแฟนเพจคือ ข้อมูลการจ้างงาน รายละเอียดหรือ ที่อยู่เพื่อติดต่อเช่นอีเมลล์ การแนะนำตัวว่าคุณทำอะไรได้ จนกระทั่งภาพวาดที่คุณวาดอย่างสม่ำเสมอนั่นเป็นตัวบ่งบอกว่าคุณนั้นเป็นการแนะนำตัวคุณได้ไปในตัว

5.ยอดถูกใจที่มากพอจะมีพลังให้คุณสร้างผลงาน แต่นั่นคือคุณต้องทำมันอย่างสม่ำเสมอและชัดเจน จนมันมากพอจะทำให้คุณยืนด้วยตัวคุณเอง แต่สิ่งที่คุณทำนั้นอย่าสักแต่ว่าตามใจตัวเอง แต่คุณควรมีระเบียบด้วยเช่นกัน

6. เมื่อคุณสร้างระบบของคุณแล้วอย่าลืมว่าคุณต้องสร้างความชัดเจนให้กับตัวเองด้วยนั่นคือ ใบหลักฐานต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น ใบสัญญาหรือใบเสร็จ เพื่อเป็นหลักประกันให้ทั้งสองฝ่ายและเราจะไม่ถูกโกงง่ายๆด้วย

7.สุดท้ายการมีแฟนเพจก็เปรียบเสมือนมีเพื่อนหรือการสร้างกลุ่มคนให้มาจ้องมองเรา(ว้าย!เขิล!!) คุณจะไม่โดดเดี่ยวอย่างแน่นอนถ้าคุณใช้ให้เป็น...

และเช่นเคย...หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคน ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ^_^

ปล.บทความนี้สามารถนำเอาบทความการตลาดกับนักวาดมาประยุกต์ใช้กันได้นะจ๊ะ >>  http://www.wecomics.in.th/blogs/detail-page/159


หมายเหตุ: ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหาเลย.. 

ประเภท: บันทึก

บล็อกที่น่าจะชอบ

11/03/2017
การตลาดกับนักวาดหรือนักผลิตผลงานโลกปัจจุบัน... การตลาดเป็นสิ่งสำคัญมาก สำคัญอย่างไร? ขาดมันได้ไหม? สำคัญตรงที่อะไร? แล้วทำไมต้องมีมัน? ใช่แล้ว ตัวตนพื้นฐานของเรา นั่นคือ "มนุษย์เป็นสัตว์สังคม" เท่าที่ทราบที่ได้จากการพูดคุยแลกเปลี่ยนกับบุคคลมาบ้าง มีคนบาง
10/02/2017
[เรื่องของมือ] นะฮะเป็นมุมมองของ มือ ในตัวละครแต่ละประเภท.คำเตือน : บล็อคนี้ มีสารละเหยประกอบอยู่พอสมควร โปรดประคองสติ ตลอดการอ่านเพื่อความเข้าใจก็ไม่ค่อยจะมีสาระเหมือนเคยนะฮะ....(ฮา)***ไม่แนะนำให้วาดตามนะครับ เดี๋ยวจะเสียเอกลักษณ์ ของแต่ละคนไป ลองหาสไตล์
29/01/2017
ชักจะล้ำขึ้นไปทุกทีแล้วกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่นับวันก็แอบน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้เราอาจจะเคยได้ยินข่าว 'อัลฟาโกะ' (AlphaGo) ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท ดีปมายด์ (DeepMind) ของบริษัท กูเกิล สามารถเอาชนะนาย อี เซดอล เซียนโกะ ลงไปได้แบบขาดลอย http://www.th
07/04/2017
เอาล่ะ เราเชื่อว่าคนที่กดเข้ามาอ่านรู้จัก กินทามะดีอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นก็คงไม่ต้องสาธยายอะไรไปมาก เข้าเรื่องเลยละกัน หลังจากที่ลงรูปเมื่อวานไปมีคนไลค์ แชร์ เม้นเยอะมาก แต่เหมือนเสียงของคนอ่าน(และดู) จะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งใหญ่ๆ คือ1. ชอบที่กินทามะเป็นการ์ตูน
ส่ง
ความคิดเห็น ()