ถ้าใครเล่นโซเชียลหรือใช้เวลาไปกับการนั่งเล่นอินเตอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นนักส่องหรือนักพิมพ์ บางทีก็เป็นนักเลงคีย์บอร์ด รู้สึกสนุกสนานไปกับการแสดงออกทางความคิดและอารมณ์ผ่านคอมเม้นต์ตามเว็บบอร์ด โซเชียลมีเดียหรือเว็บต่างๆ พอเราโตขึ้นแล้วย้อนกลับไปดูสิ่งที่เราเคยทำลงไป มันก็ทำให้เราได้แต่นั่งกุมขมับและถามตัวเองว่า “นี่ xูทำอะไรลงไป” ทั้งเกรียนเว็บบอร์ดระดับมงกุฎเพชร ขุดดราม่าทั้งวี่ทั้งวันก็ทำมาแล้ว
คำว่า “จูนิเบียว” (Chuunibyou) ที่เราเรียกกันสั้นๆว่า “เบียว” ในเว็บ Urban Dictionary บอกไว้ว่ามันคือคำสแลงในแง่ลบของญี่ปุ่นที่แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า Middle School 2nd Year Syndrome หรือ “โรคม.2” ซึ่งเป็นการแสดงออกเหมือนเด็กๆ ที่ทำเหมือนว่าตัวเองรู้ไปหมดทุกสิ่ง เหมือนตัวเองโตแล้ว แต่กลับดูถูกคนที่เป็นผู้ใหญ่จริงๆ หรือการที่เชื่อว่าตนเองนั้นวิเศษเหนือผู้อื่น มีสิทธิ์และมีพลังอำนาจเหนือคนอื่น เว็บ tvtropes บอกเพิ่มเติมว่าจูนิเบียวหมายถึงการทำตัวไม่ดี ยโสโอหัง ทำตัวเหมือนตัวเองดีกว่าทุกคน หรือคิดว่าตัวเองสามารถได้รับพลังวิเศษหรือเป็นคนพิเศษได้
ซึ่งในตำรา Chuunibyou User Manual ที่เขียนโดย Saegami Hyouya ได้แบ่งจูนิเบียวเป็นสามประเภทใหญ่ๆด้วยกัน
1. DQN (Delinquent) คำนี้หมายถึงความเหลวไหล กระทำความผิด เป็นประเภทที่คิดว่าตัวเองเป็นพวกวายร้าย หรือเป็นมาเฟียที่พร้อมปะทะทุกคนได้ตลอดเวลา หรือเป็นพวกต่อต้านสังคม มีความแปลกแยก มีความ Bad อยู่ แต่จริงๆก็เป็นไม่ได้หรอก แสร้งว่ารู้เรื่องพวกนี้ แต่จริงๆก็ไม่รู้อะไรบ้างเลย ตัวอย่างเช่น บาร์กี้ในเรื่องวันพีชก็เข้าข่ายอยู่นะ 55555
2. Subcultural เป็นพวกที่ชอบทำให้ตัวเองโดดเด่นและน่าสนใจกว่าคนอื่นๆ อยากจะแตกต่าง ดูเป็นคนคูลๆ พยายามทำตัวให้คนอื่นมองว่าเป็นคนเจ๋งๆ เป็นผู้นำเทรนด์
3. Evil Eye ดวงตาปีศาจก็มา ประเภทนี้เป็นคนที่เชื่อว่าตัวเองมีพลังพิเศษ! มีเวทมนตร์ มีพลังเหนือธรรมชาติ สามารถอันเชิญปีศาจอะไรพวกนี้ได้ บางคนก็จะตั้งชื่อในวงการให้ตัวเองด้วย เช่น ลอร์ดโวลเดอมอร์
อาการนี้แอดคิดว่าคงเกิดขึ้นในช่วงรอยต่อของวัยรุ่นที่ต้องเติบโตขึ้น แต่ยังสับสน งงๆชีวิตอยู่ ซึ่งช่วงที่มีพฤติกรรมแบบนี้ก็คงเป็นช่วงม.ต้น เพราะมันเป็นช่วงที่เราเปรี้ยวที่สุดในชีวิตแล้วก็ว่าได้ (แอดเองก็เช่นกัน) คือเป็นช่วงที่ความรับผิดชอบเริ่มเยอะขึ้น ร่างกายเริ่มเติบโต แต่ใจยังมีความเป็นเด็กอยู่เยอะ บางคนก็เป็นคนเบียวๆตั้งแต่ประถมก็มี หรือบางคนเรียนจบแล้วยังเบียวอยู่ก็เยอะ แอดว่า “จูนิเบียว” มันไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นกับทุกคนหรอก และถ้ามีใครเป็นขึ้นมา ก็คงต้องรอให้เจ้าตัวยอมรับความจริงและพร้อมจะปรับปรุงตัว สมัยนี้แอดเห็นบางกลุ่มก็ใช้คำว่า “วันนาบี” แทนจูนิเบียวประเภท Subcultural เยอะเหมือนกันนะ ส่วนใครที่เคยสัมผัสประสบการณ์สมัยยังเบียวอยู่ และผ่านมันมาได้ แอดขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ แอดยอมรับว่าแอดเองก็เคยเป็นเหมือนกัน พอนึกถึงช่วงเวลานั้นแล้วมันน่ากุมขมับรัวๆเลยทีเดียว ยังมีโมเมนต์ที่รู้สึกว่าตัวเรานั้นช่างโง่เขลานักอยู่ทุกครั้งที่มองย้อนกลับไป 55555 แต่ไม่เป็นไรเนอะ รู้ตัวและปรับปรุง ไม่ทำให้ใครต้องเดือดร้อนก็ดีแล้ว : )
ใครอยากทำความรู้จักกับคำนี้เพิ่มเติม ก็ลองดูเรื่อง Chuunibyou demi Koi ga shitai! (รักสุดเพีย้นของยัยเกรียนหลุดโลก) ได้นะ เป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้ชานคนหนึ่งที่เคยเป็นจูนิเบียวมาก่อน พอเขามองย้อนกลับไปดูวัยที่เขาเป็นแบบนั้นมันก็ทำให้รู้สึกขนลุกและน่าอาย 55555 เขาก็เลยพยายามจะทิ้งความทรงจำตรงนั้นเพื่อที่จะเริ่มชีวิตม.ปลายอันสดใสเหมือนคนปกติ แต่ก็ดันมาเจอสาวลึกลับที่ท่าทางจะเบียวหนักกว่าเขา
Thank you
http://www.urbandictionary.com/define.php?term=Chuunibyou
http://tvtropes.org/pmwiki/pmwiki.php/Main/Chuunibyou
https://anime.stackexchange.com/questions/8632/is-chuunibyou-syndrome-real
ข้อมูลจะถูกนำออกทำให้ไม่สามารถอ่านได้อีกน่าเสียดายมากเลย
แน่ใจแล้วหรือที่ต้องการลบข้อมูลออก
หากยืนยันแล้วจะไม่สามารถกู้คืนมาได้อีกนะ!