ความเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติ ความศักดิ์สิทธิ์ สิ่งลี้ลับมองไม่เห็น ไม่ได้มีแค่คนไทยอย่างเราๆ เท่านั้นที่มีความเชื่อ ญี่ปุ่นเองก็เป็นอีกประเทศที่มีความเชื่อเรื่องพวกนนี้อย่างแรงกล้าเช่นกัน และเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เทพเยอะที่สุดประเทศหนึ่งเลยก็ว่าได้ จึงไม่แปลกที่จะมีความเชื่อความศรัทธาหลากหลาย ความเชื่อ ตำนานของเทพแต่ละองค์ตามมา

          เมื่อลองได้เติบโตมาในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์นั้นแล้วจึงไม่แปลกที่ความเชื่อเหล่านั้นจะแพร่หลายขยายวงกว้างออกไป ศาสนาของประเทศญี่ปุ่นเดิมทีคือศาสนาชินโต ดังนั้น ทวยเทพชื่อดังส่วนใหญ่จึงจะกำเนิดมากับศาสนาและความเชื่อแบบชินโตเช่นกัน ตามที่เรามักจะเคยเห็น เคยได้ยินผ่านตามาบ้างทั้งในสารคดี การท่องเที่ยว หรือแม้แต่ในวงการอนิเมะเองก็มีอยู่หลายเรื่องที่กล่าวถึงและมีบทบาทของเทพเข้ามาเกี่ยวข้องในเนื้อเรื่องเพื่อเป็นการเผยแพร่สอดแทรกความรู้ไปตัว

เทพพระเจ้าสำคัญที่คนญี่ปุ่นต้องรู้จัก และมักมีบทบาทในอนิเมะ

เนื่องจากเทพทั้งหมดที่มีในญี่ปุ่นมีค้อนข้างเยอะ จึงเลือกนำเสนอแต่เทพองค์ที่มักได้ยินชื่อกันบ่อย ๆ มานำเสนอให้รู้จักกันว่า เทพเหล่านี้เป็นเทพแบบไหน ตำแหน่งเป็นยังไง

• เอบิซุ (เทพแห่งชาวประมงและการค้าขาย)

          บุตรชายองค์แรกของเทพอิซานามิและอิซานางิ ถือกำเนิดมาโดยปราศจากกระดูกและแขนขา มารดาที่อดทนต่อความรังเกียจนี้ไม่ได้จึงปล่อยเทพเอบิซุลอยแพรลงในทะเล จนภายหลังจึงได้สร้างกระดูกและแขนขาออกมาเองได้ เอบิซุเป็นเทพแห่งชาวประมงและการค้าขาย มักพบเห็นท่านถือปลาและเบ็ดตกปลาเสมอ เอบิซุเป็นเทพเจ้าองค์เดียวในหมู่เทพทั้งเจ็ด ที่มีต้นกำเนิดมาจากญี่ปุ่นเองแท้ๆ ไม่ได้เป็นเทพที่ได้รับอิทธิพลจากความเชื่อต่างชาติ เดิมเทพองค์นี้มีชื่อว่า ฮิรุโกะ ซึ่งแปลว่า บุตรแห่งสายน้ำ ตามร้านอาหารทะเลก็มักนำรูปปั้นเอบิซุมาประดับด้วย

• เท็นจิ (เทพแห่งปัญญา)

          เป็นเทพองค์หนึ่งที่มีจุดเริ่มต้นมาจากคนธรรมดาสามัญ โดยมีชื่อเดิมว่า สุกาวาระ มิชิซาเนะ กิดในตระกูลขุนนางในสมัยเฮอัน ตระกูลของท่านเป็นตระกูลนักปราชญ์ที่สนับสนุนด้านการศึกษาอย่างเต็มที่ ถึงขนาดเปิดคฤหาสถ์เป็นโรงเรียน ท่านจึงมีโอกาสในการศึกษามากกว่าคนอื่น อีกทั้งยังมีความเฉลียวฉลาดจนสามารถสอบเข้าเรียนและรับราชการในตำแหน่งสูง ทว่าภายหลังกลับถูกใส่ร้ายกล่าวหาว่าคิดกบฏ จึงถูกเนรเทศไปบนเกาะคิวชู ท่านเสียใจจนกระทั่งตรอมใจตายในอีกสองปีต่อมา จนกระทั่งในเมืองหลวงเกิดอาเพศจนมีคำสั่งยกเลิกการนรเทศและสร้างศาลเจ้าเหนือหลุมฝั่งศพให้ และเป็นที่เคารพนับถือทางด้านการศึกษาในเวลาต่อมา

• บิชาม่อน (เทพแห่งสงคราม)

          เทพแห่งเหล่านักรบ สวมเสื้อเกราะแบบนักรบมี ใบหน้าสีฟ้าและถืออาวุธต่างๆ (แม้ในอนิเมะจะเห็นเป็นหญิง แต่ความจริงเป็นชาย) ที่เห็นก็จะมีหอกและเจดีย์ เทพบิชาม่อนหรือบิชามงเป็นคุณงามความดีและความสงบสุข ตามตำนานญี่ปุ่นเป็นเทพแห่งสงครามผู้ขับไล่ปีศาจและสิ่งที่เป็นอัปมงคล รวมถึงปกป้องทรัพย์สินในบ้านจากภัยอันตรายต่างๆ เป็นเทพองค์หนึ่งที่ค่อนข้างมั่งคั่งในทรัพย์สมบัติมากอีกด้วย

• อินาริ (เทพเจ้าแห่งกสิกรรม)
  

          เป็นหนึ่งในเทพที่เปรียบเสมือนทุกสิ่งที่อย่างของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ เทพอินาริจะเป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์หรือเรียกอีกอย่างว่าเทพเห่งกสิกรรม การเก็บเกี่ยวข้าว รวมไปถึงพืชผลไร่นาต่างๆ ที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องเพียงแค่กับ ข้าว เท่านั้น แต่ชา สาเก และความสำเร็จต่างๆ ก็มีความเชื่อว่ามีจุดกำเนิดมาจากเทพอินาริแทบทั้งสิ้น อีกทั้งยังให้จิ้งจอกเปนทูตในการส่งสารมาสู่โลก จึงได้ปั้นจิ้งจอกไว้ในศาลเจ้าต่าง ๆ และมักจะมีจิ้งจอกเป็นสัตว์คู่กาย (บ้างก็ว่าท่านชอบแปลงร่างเป็นจิ้งจอก) จึงสามารถพบเห็นรูปปั้นจิ้งจอกมากมายด้วยเช่นกัน

• เทพจิโซ (เทพเจ้าพิทักษ์ดวงวิญญาณเด็ก)

          เชื่อกันว่าเป็นเทพผู้พิทักษ์เด็ก ผู้หญิง และนักเดินทาง ว่ากันว่าเด็กและทารกที่เสียชีวิตก่อนพ่อแม่จะเป็นดวงวิญญาณเร่ร่อนไม่สามารถเดินทางข้ามไปอีกภพได้ เนื่องจากพ่อแม่เอาแต่โศกเศร้าเสียใจจนไม่มีเวลาทำบุญเพื่อนให้ลูกไปเกิดไม่ ทำให้เด็กที่เสียชีวิตไม่สามารถข้ามแม่น้ำซันซูเพื่อผ่านไปอีกภพหนึ่งได้ จึงต้องกลายมาเป็นรูปปั้นหินอยู่ริมแม่น้ำ และคอยช่วยเหลือเด็กคนอื่นให้ข้ามแม่น้ำไปยังอีกภพหนึ่งได้ โดยซ่อนเด็กๆ เอาไว้ใจผ้าคลุ้ม

• เทพฟูจิน ไรจิน (เทพพระเจ้าแห่งลมและเทพพระเจ้าแห่งสายฟ้า)

          ไรจินเป็นเทพเจ้าแห่งสายฟ้ารูปปั้นที่เห็นจะมีความน่าเกรงขามถือค้อนและแบกกลองไว้ด้านหลัง ส่วนฟูจิเป็นเทพเจ้าแห่งสายลมจึงมึกแบกถุงใส่ลมเอาไว้ ก่อนจะมาเป็นเทพทั้งสองเคยมีประวัติคิดล้างโลก ก่อกวนมหาสมุทรให้เกิดพายุมาก่อน เทพทั้งสองมักจะปรากฏกายพร้อมกันเสมอ ทำให้ความน่ากลัวเพิ่มขึ้นเท่าทวี จึงได้รับหน้าที่เป็นยามรักษาประตูวัด

• อิซานามิ อิซานางิ (เทพเจ้าแห่งการสร้าง)
  

           ทั้งสององค์เป็นเทพชาย หญิงคู่แรกตามหลักศาสนาชินโตอันเป็นศาสดาดั้งเดิมของญี่ปุ่น ที่กล่าวเอาไว้ว่าเป็นเทพเจ้าแห่งการสร้างถือได้ว่าเป็นพระบิดาและพระมารดาของเทพเจ้าทั้งปวง ทั้งสองสร้างโลกขึ้นมาโดยการกวนหอกศักดิ์สิทธิ์ที่ประดับด้วยเพชรพลอยอยู่ระหว่างสวรรค์และโลก เมื่อใดที่น้ำจากปลายหอกหยดลงก็จะก่อเกิดผืนแผ่นดิน เกาะบนโลกขึ้น และบทบาทสำคัญที่มักถูกกล่าถึงกันบ่อยๆ คงจะเป็นสิ่งที่เทพทั้งสองพยายามทำจนสำเร็จคือการให้กำเนิดบุตรอย่างสมบูรณ์มากมาย และบุตรที่เกิดจากพวกทั้งยังเป็นเทพองค์สำคัญของญี่ปุ่นอีกด้วย

• อามาเทราสุ (เทพแห่งพระอาทิตย์)
  

          ตามความเชื่อในศาสนาชินโตนั้นอามาเทราสุเป็นเทพพระเจ้าแห่งพระอาทิตย์และแสงแดด โดยว่ากันว่าจักรพรรดิของชาวญี่ปุ่นนั้นสืบเชื้อสายมาจากเทพองค์นี้ และเรายังเห็นธงชาติญี่ปุ่นมีสัญลักษณ์ของดวงอาทิตย์จนบางทีเรายังเรียกว่าแดนอาทิตย์อุทัยด้วย โดยตำนานที่เกี่ยวข้องกับเทพองค์นี้มีอยู่มากมาย แต่เรื่องที่สำคัญมีอยู่ว่า การที่สุริยเทพีมีเรื่องกับน้องชาย จนต้องหลบหนีเข้าไปอยู่ในถ้ำทำให้ทั่วทั้งจักรวาลต้องพบกับความมืดมิด เทพทั้งหลายจึงแก้ไขปัญหานี้ด้วยการคิดกลอุบายให้สุริยเทพีปรากฏตัวออกมา แสงสว่างจึงได้ขับไล่ความมืดและความชั่วร้าย

• เบ็นไซเท็น (เทพแห่งความอุดมสมบูรณ์และโชคลาภ)
  

           เทพเจ้าองค์เดียวในบรรดาเทพเจ้าแห่งโชคลาภทั้ง 7 ที่เป็นผู้หญิง เป็นเทพแห่งศิลปะ การแสดงและความงาม มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอินเดีย คือองค์เดียวกับ พระสุรัสวดี มักพบท่านในลักษณะของนางฟ้าที่กำลังเล่นเครื่องดนตรีเครื่องสายของญี่ปุ่น (ในตำนานฮินดู พระสุรัสวดีเป็นชายาของพระพรหม และมักทรงพิณในพระหัตถ์เสมอ)

• โฮเตอิ (เทพเจ้าแห่งความสุขและความรู้จักพอ)

          เทพโฮเตอิเป็นเทพเจ้าความสุขและความรู้จักพอ นอกจากนั้นยังเชื่อว่าช่วยให้ทำมาค้าขายดี และมักตั้งเอาไว้ที่บริเวณทางเข้าร้านค้า เทวลักษณะของเทพองค์นี้ คือรูปร่างอ้วน แก้มยุ้ย ใบหน้ายิ้มแป้นมือถือพัด มักจะสะพายย่ามใบใหญ่ไว้ ย่ามใบนี้เล่ากันว่าใส่ของไปมากแค่ไหนก็ไม่มีวันเต็ม เทววิทยาญี่ปุ่นยอมรับว่าเทพองค์นี้มาจากจีนอย่างแน่นอน ว่ากันว่าท่านเคยเป็นมนุษย์ธรรมดา ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่นั้น เป็นคนที่มีความรอบรู้เชี่ยวชาญในพุทธศาสนามากและก็มีวัตรปฏิบัติของผู้ละวางไม่ยึดติดใดๆ ไม่มีแม้แต่บ้าน แต่เมื่อมาถึงญี่ปุ่นก็กลายเป็นเทพที่ชอบเหล้าสาเก เพราะคนญี่ปุ่นชอบเหล้าสาเกและเทพแห่งโชคลาภของญี่ปุ่นเกิดจากการเลียนแบบคณะโป๊ยเซียนของจีน จึงได้รับแรงบันดาลใจจากนิทานพื้นบ้านที่มักกล่าวถึงโป๊ยเซียนชอบร่ำสุราร่วมกัน

• ยาโตะ (เทพยาจกไร้ศาล)

          เทพเจ้าเร่ร่อน ไม่มีศาลเจ้าเป็นของตนเอง เขาจึงรับจ้างทำงานทุกอย่าง เพื่อที่จะหาเงินมาสร้างศาลเจ้าเป็นของตนเอง โดยแปะเบอร์โทรศัพท์ไว้ตามสถานที่ต่างๆ เพื่อว่าเวลามีคนมีเรื่องเดือดร้อนจะได้โทรหาเขา แล้วให้เขาช่วยแก้ไขความเดือดร้อนนั้นให้ เพื่อแลกกับค่าตอบแทนเป็นเงิน 5 เยน เทพยาโตะถือได้ว่าเป็นพระเอกของเรื่อง โนรางามิ ที่มีบทบาทในการทำงานแลกเงินเพื่อสร้างศาลเจ้าของตน อาจจะเรียกได้ว่าเป็นเทพแห่งความพยายามในภายภาคหน้าก็ได้ ขอให้ท่านสู้ต่อไป ท่านยาโตะและระวังเรื่องกฎความรักระหว่างเทพกับมนุษย์ด้วย

"เดี๋ยวๆๆ ยาโตะไม่เกี่ยวเด้อ"