ต้องบอกเลยว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำให้แอดตื่นเต้นตั้งแต่รู้ว่าจะมี Live Action ฉบับคนแสดง ตอนแรกๆก็กังวลเหมือนกันนะ ว่าจะไปรอดรึเปล่า เพราะอนิเมะชื่อดังหลายๆเรื่องที่ถูกเอาไปทำเวอร์ชันคนแสดง มันออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควร เราก็ไม่ค่อยอยากเห็นเรื่องที่เราชอบถูกปู้ยี่ปู้ยำจนเละเทะ ดูแล้วก็ได้แต่คิดว่าทำไมเราต้องมาทรมานตัวเองแบบนี้ด้วยนะ

แต่กินทามะไม่ใช่แบบนั้น

เรื่องนี้ทำให้แอดประทับใจตั้งแต่เห็นโปสเตอร์นักแสดงแล้ว เห็นได้ชัดๆเลยว่าเขาตั้งใจทำออกมาเพื่อแฟนๆ และจะทำมันออกมาให้ดีโดยที่ยังเคารพต้นฉบับในมังงะและอนิเมะ ปกติเวลาเอาการ์ตูนไปทำหนัง ก็จะมีการลดทอนหรือปรับเปลี่ยนอะไรเยอะแยะมากมายให้เข้ากับชีวิตจริงมากขึ้น กินทามะก็มีการปรับนิดหน่อย แต่ก็ยังมีกลิ่นอายความออริจินัลหลายๆอย่างที่ทำให้เราตกหลุมรักคุณกินซ้ำแล้วซ้ำอีก

แอดว่ามันคงจะเป็นไปไม่ได้ ที่จะไม่พูดถึงความรู้สึกที่ได้ดู Live Action ที่สร้างมาจากหนึ่งในอนิเมะที่แอดชอบที่สุด แต่ขอเตือนไว้ตรงนี้เลยแล้วกันเนอะ ว่าต่อจากนี้จะมีคำหยาบเพื่อเป็นสีสันและเป็นการบรรยายความรู้สึกที่แท้ทรูของแอดค่ะ! 

คำถามแรกที่แอดถามตัวเองตอนที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ก็คือ “นี่มันหนังอะไรของมึงวะ” ดูไปก็ต้องกุมขมับหัวเราะจนเมื่อยปาก แอดเพิ่งไปผ่าฟันคุดมาด้วย  ขำจนปวดแผลเลยอะ 5555555555 มันตลกตั้งแต่เปิดเรื่องแล้ว หัวเราะหนักมากตั้งแต่เพลงเปิดเรื่อง นี่พวกเอ็งเล่นอะไรกันวะ นี่มันเวอร์ชันหนังขึ้นโรงแล้วนะเว้ย พวกแกจะเล่นเหมือนในอนิเมะไม่ได้โว้ยยยยย ปรากฏว่าเล่นใหญ่รัชดาลัยยิ่งกว่าในอนิเมะอีก!!! และความสนุกมันอยู่ตรงที่ตอนเราไปดูในโรง มันก็จะเต็มไปด้วยคนที่ชอบอะไรคล้ายๆกัน ก็เลยตลกกับมุกแบบเดียวกัน หัวเราะไปด้วยกันก็ยิ่งสนุกกว่าเดิมมากๆ ไม่เหมือนตอนดูอนิเมะที่ได้แต่หัวเราะเบาๆกับยิ้มมุมปาก

จังหวะในการเล่นมุกคงไม่ต้องพูดถึง ตลกโปกฮาเหมือนตลกคาเฟ่เลยทีเดียว แอดนั่งหัวเราะหัวงอ ฟันคุดก็ปวดแต่ก็ต้องยอมจริงๆ “มันดีกว่าที่คิดเอาไว้” แต่ถ้าไม่ใช่แฟนการ์ตูนเรื่องอื่นๆทั่วไป หรือต้องการสาระและความลึกซึ้งของชีวิต ก็อาจจะมองว่าหนังเรื่องนี้ไม่มีอะไรเลย ไม่เข้าใจและคิดว่ามันแป้กๆไปเลยก็ได้ แต่ไม่ต้องห่วงนะว่าถ้าไม่เคยอ่านแล้วจะรู้เรื่องมั้ย มันมีแนะนำเล็กๆน้อยให้ตอนต้นเรื่องค่ะ อาจจะไม่อินหรือผูกพันกับตัวละครเท่าคนที่เคยอ่านมังงะหรือดูอนิเมะมา แต่ก็สนุกไปกับมันได้นะ เพียงแค่เราอาจจะไม่ได้หัวเราะดังเท่าคนอื่นๆ บอกไว้ตรงนี้เลยว่าถ้าเข้าใจมุกล้อเลียนต่างๆจะฮาขี้แตกขี้แตนมากๆ เล่นบ้าอะไรกันนักหนา ขำจนปวดฟันคุดจะตายแล้วโว้ย มีช่วงนึงแอดโดนคนข้างหลังกระแทกเบาะ คือแอดลืมหันไปจ้องหน้าหาเรื่องเขาเลย เพราะมัวแต่หัวเราะอยู่

*ชินเซ็น*

อย่าพึ่งคิดว่ามันเคารพต้นฉบับแล้วจะเดินตามอนิเมะตรงๆเป๊ะๆเลย แอดบอกไว้ตรงนี้เลยว่า “มีเซอร์ไพรส์แน่นอน” เราจะได้เห็นตัวละครบางคนที่โคตรจะลึกลับและคูลๆ แถมยังได้เห็นบทบาทของแก๊งค์ชินเซ็นกุมิที่จริงๆแล้ว “ไม่มีบทในอนิเมะภาคนี้” ด้วยนะ ถ้าอยากรู้ว่าชินเซ็นจะมาทำอะไร ก็ต้องไปดูด้วยตาตัวเอง ซึ่งตรงนี้แอดมองว่า “เป็นการปรับเปลี่ยนบทที่ดีมากๆ กินทามะที่ไม่มีชินเซ็นกุมิ ก็เหมือนนมสตรอเบอรี่ที่ไม่ใช่สีชมพู” (ทำไมต้องเปรียบเทียบแบบนั้น 55555) แถมยังมีช่วงนึงที่ต้องขอพูดหยาบๆเพื่อบรรยายความรู้สึกของแอดว่า “แม่งฮาชิบหาย มึงนี่ก็กล้าเล่นเนอะ!” ใบ้ให้แบบสปอยล์เบาๆแล้วกัน >> ตอนนั้นมันออกทะเลไปไกลมากกก กลับฝั่งเดี๋ยวนี้!

เรียกว่าในเวอร์ชันนี้มีครบทุกอย่างที่ทำให้แฟนๆหลงรักกินทามะเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นมุกเฮฮา ล้อเลียนเรื่องอื่นๆไปทั่ว สหายร้านรับจ้างของคุณกินที่ไม่มีใครเต็มบาทซักคน ชินเซ็นกุมิที่เหมือนคณะตลกมากกว่าตำรวจ ซึระกับอลิซาเบธที่หลุดโลก และทากาสุงิที่มีดีกรีเป็นถึงตัวร้ายคนสำคัญของเรื่อง ได้ครบในหนังเรื่องเดียวถือว่าคุ้มค่ามากๆเลยนะ

อวยกันแบบไม่ลืมหูลืมตามาเยอะแล้ว ต้องขอติในบางจุดกันบ้าง ก่อนอื่นเลยเราต้องยอมรับว่านี่คือหนังของญี่ปุ่น ด้วยข้อจำกัดและงบประมาณที่ไม่ได้เยอะมากมายเหมือนหนังฝรั่ง ก็เลยทำให้หลายๆอย่างดูติดขัดไปบ้าง CG ดูไม่ค่อยเนียนเท่าไหร่ บางอย่างก็ทำให้เรารู้สึกว่าลงทุนทำพร็อบของจริงไปเลย ไม่ต้องมานั่งทำ CG น่าจะออกมาสวยและเนียนกว่า ต้องพยายามบอกตัวเองซ้ำไปซ้ำมาว่านี่คือ Live Action ของญี่ปุ่น ไม่ใช่ระดับ The Avengers ซีจีไม่เนียนก็ไม่เป็นไรหรอกเนอะ TwT

เป็นไปไม่ได้หรอกที่หนังจะออกมาดี 100% มันก็มีข้อเสียในตัวมันเอง “หนังกับอนิเมะไม่เหมือนกัน จังหวะในการเปลี่ยนอารมณ์จึงต่างกันด้วย” กินทามะเป็นเรื่องที่เฮฮาบ้าบอมากๆ แต่พอจริงจังก็เครียดและซึ้งซะจนน้ำตาซึมอยู่หลายครั้ง ซึ่งในอนิเมะทำได้ดี แต่ในหนังกลับทำได้ไม่ค่อยดีเท่าที่ควร พอหมดช่วงฮาแล้วตัดเข้าบทพูดยาวๆหรือช่วงซีเรียส เรากลับรู้สึกว่ามันยังไปไม่สุด เราเพิ่งหัวเราะมา ยังเปลี่ยนอารมณ์กลับไปจริงจังไม่ได้ ช่วงพูดคุยที่ควรจะดูเท่ๆขรึมๆ ก็เลยกลายเป็นน่าเบื่อไปบ้างเล็กน้อย และเพราะหนังเคารพต้นฉบับมากๆ ความแตกต่างของอนิเมะและหนังก็เลยมีไม่มากเท่าไหร่ คนที่เคยดูอนิเมะมาแล้วก็คงจะรู้กันดีกว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ความตื่นเต้นในช่วง Climax อาจจะไม่ต้องเข้มข้นมากนัก

อีกอย่างหนึ่งที่เป็นข้อเสียร้ายแรงของเรื่องก็คือการตัดต่อและความไม่ต่อเนื่อง อย่างที่แอดได้เกริ่นๆไปแล้วว่าเปลี่ยนอารมณ์ตามหนังไม่ทันเลย บางครั้งมันก็เหมือนเป็นสองเส้นเรื่องที่ต้องรีบดำเนินเรื่องไปในเวลาใกล้เคียงกัน ก็เลยต้องตัดสลับไปมา แต่มันพลาดตรงที่เส้นเรื่องนึงจริงจัง อีกเส้นดูผ่อนคลาย มันก็เลยคิดว่า “อ้าว ตกลงเราต้องรู้สึกยังไงวะ” เราหัวเราะค้างอยู่ ให้เข้าโหมดจริงจังก็พอได้อยู่บ้าง แต่มันไม่สุดจริงๆ ยังคิดว่าต้องมีช่วงที่เราต้องหัวเราะอีกแน่ๆอยู่ตลอดเวลา เพราะหนังหยอดมุกมาเรื่อยๆเลย และข้อที่สำคัญที่สุดคือความไม่ต่อเนื่อง “เหมือนมีบางฉากถูกตัดออกไป ทำให้เรารู้สึกว่ามันขาดหายไป มันไม่ต่อกัน” เหมือนนับ 1 2 แล้วข้ามไป 6 7 8 (เช่น มีบางคนโดนมัดอยู่ดีๆ รู้ตัวอีกทีก็ไปวิ่งบู๊หน้าตาเฉย หนีไปตอนไหนวะ! มันรอดไปได้ยัง!)

แล้วก็เรื่องการต่อสู้ ฉากบู๊ที่เป็นการต่อสู้ของคนสำคัญ มันควรจะดูยิ่งใหญ่และดูเท่ๆ แต่ดันไปสู้กันในโกดัง... สู้กันในฉากที่มันไม่ได้ทำให้รู้สึกโอ้มายก๊อดโดะ ขาดความอีปิค คิวบู๊ก็ยังดูแปลกๆ บางฉากเห็นกันจะๆเลยว่าต่อยเตะไม่จริง ฟันดาบกันปลอมๆ ใช้มุมกล้องหลบได้ไม่ดีเท่าไหร่ บางฉากก็ซูมแบบ close up ใกล้หน้านักแสดงมากเกินไป ซูมซะจนแอดเห็นเส้นขนบนใบหน้า เห็นรูขุมขนและรองพื้นที่เริ่มไหลเพราะเหงื่อ แล้วมันก็ไม่ได้ทำให้ฉากนั้นดูลึกซึ้งหรือสวยงามขึ้นด้วยนะ เป็นการใช้มุมกล้องแบบงงๆดีเหมือนกัน แต่ได้เห็นรูขุมขนคุณกินแอดก็โอเค๊ ก็ไม่คอมเพลนก็ด้ายยยยย

วิกคุณกินก็ดูเหมือนเซ็ตไว้คนละทรงกันในบางฉาก เพราะมุมกล้องที่ซูมมากไปเนี่ยแหละ เห็นเลยว่าวิกพันกันแล้ว 55555 สงสัยว่าจะเซ็ตวิกไว้แบบนี้ หวีไม่ได้แล้ว มันก็เลยพันกันแล้วก็ฟูๆ บางมุมก็ทำให้ โอกุริ ชุน (นักแสดงที่เล่นเป็นคุณกิน) ดูหล่อ ดูดี แต่บางมุมก็กลายเป็นตาลุงไปเฉยเลย อย่าทำร้ายคุณกินสิคะ

และสิ่งที่น่าเป็นห่วงจนแอดคิดว่าเป็นหนึ่งในจุดบอดของเรื่องนี้ก็คือ “ทากาสุงิ” ส่วนตัวแอดมองว่านักแสดงก็หน้าตาดีนะ มีเสน่ห์เอาเรื่อง และเขาเล่นบทนี้ได้ แต่ว่าเขายังขาดความน่ากลัว น่าเกรงขาม ขาดรัศมีตัวร้ายที่เป็นถึงคนสำคัญของเรื่อง ทากาสุงิในอนิเมะและหนังสือเป็นตัวร้ายที่ดูลึกลับซับซ้อนและดุร้าย โลกพรากคนสำคัญไปจากเขา และเขาต้องการพรากทุกสิ่งไปจากโลก แต่ตัวละครในหนังกลับยังไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าทากาสุงิเป็นคนแบบนี้เท่าไหร่ เขายังดูไม่เก่ง ไม่ใช่บอสหลักๆอย่างที่ควรจะเป็น ทักษะการต่อสู้ก็ยังไม่ตื่นตาตื่นใจเท่าที่ควร แถมยังตัวเล็กกว่าคาสึระอีก

รอบนี้แอดได้ดูแบบพากย์ไทย บอกเลยว่า “พากย์ไทยไม่ได้แย่ มันดีและตลกมากๆด้วยซ้ำ” พากย์ไทยมีการปรับให้เราเข้าใจได้มากขึ้นนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้เพี้ยนไปเยอะมาก ไม่ทำลายอารมณ์หนังเหมือนเรื่องอื่นๆด้วย จริงจังก็พากย์จริงจัง ไม่ได้หยอดมุก 5บาท 10บาท มาทำให้เราเสียอารมณ์ ทีมพากย์ของพันธมิตรทำได้ดีมากๆ เหมาะกับหนังเรื่องนี้มากค่ะ ขอชมเลย ♥

ถึงจะบ่นและติไปเยอะมาก แต่รวมๆแล้วแอดชอบหนังเรื่องนี้มากนะ ตลกมากจริงๆค่ะ ไม่คิดว่าจะได้หัวเราะหนักขนาดนี้ คะแนนความบันเทิงแอดให้ 555 เต็ม 10 คะแนนไปเลย ตลกมาก จุดด้อยหลักๆก็คือความดราม่าที่ยังจริงจังไม่สุด ยังสัมผัส “จิตวิญญาณ” ของซามุไรและความเป็น “ชิโรยาฉะ” ของคุณกินไม่ได้ (นักแสดงเล่นดีแล้วนะ หน้าตอนฮาก็ฮาชิบหาย ตอนจริงจังก็หน้าเข้มมาเลย แต่บทไม่ค่อยส่งในบางช่วงเท่านั้นเอง) ติดตลกจนลืมไปว่านี่เราต้องเปลี่ยนอารมณ์มาเครียดแล้วเด้อ ถ้าใครไม่เก็ตหรือไม่อินเรื่องการ์ตูนก็คงจะดูแล้วเฉยๆมาก เพราะหนังมันเฮฮาบ้าบอจนเราลืมเรื่องความมีสาระไปจนหมดเกลี้ยงเลย

ไม่คิดว่าจะเขียนรีวิวยาวขนาดนี้ รู้ตัวอีกทีก็ยาวประมาณ 269 หน้ากระดาษแล้วมั้ง >___<

ฉันก็รักของฉันเข้าใจบ้างมั้ยยยย

คาสึระงานดีมาก

ซึระดีมากจริงๆ

แอดหลงรักเขามากกกกกกกกกกก หลงจนเก็บไปนอนฝันถึง ข่นบ้า ฮือออ น่ารักมาก มีความเป็นศรีภรรยาที่ดี ซึระเป็นเมียคุณกินก็ดี เป็นเมียทากาสุงิก็ได้ ถึงตอนนี้จะเป็นแม่อลิซาเบธก็เชื่อแล้ว น่ารักมากค่ะ โอคิตะก็หล่อออ งานดีมากๆๆๆ แถมมีฉากเซอร์วิสให้ใจไม่ดีกันด้วยนะ! แต่หนุ่มๆไม่ต้องกังวลว่าจะมีแต่สาวๆที่ได้ฟินกัน เพราะมีฉากเซอร์วิสให้ผู้ชายต้องหลงสาวๆในเรื่องด้วย คางุระจังน่ารักมากจริงๆ นักแสดงหลายๆคนมีเสน่ห์มากจนแอดได้แต่คิดว่า “ทำไมต้องเอาคนหล่อๆสวยๆมาทำอะไรเชี่ยๆแบบนี้ด้วยวะ” 555555555

นี่ก็อีกคน หล่อมากกกกกกกกกก ควรเอาภาคเกี่ยวกับชินเซ็นกุมิมาทำเป็นหนังด้วย! อยากเห็นมายองเล่อกับเจ้าชายซาดิสม์เยอะๆ

สุดท้ายนี้ ถึงแม้ชาวสวรรค์จะเหมือนมาสคอตเดินได้ ไม่ก็หุ่นลองเสื้อในร้าน Fly Now เหมือนมี เอโะแฟชันวีค แต่อลิซาเบธก็บันเทิงจนต้องยอมใจ

ไปดูกันให้ได้นะคะ เป็นอีกเรื่องที่เราไม่อยากให้คุณพลาด!