รวมข้อมูลการทำร้ายด้วยพิษของอสรพิษ นาค และสัตว์มีพิษ
วันที่โพสต์: 07/12/2016

จาก รวมข้อมูลการทำร้ายด้วยพิษของอสรพิษ นาค และสัตว์มีพิษ


พิษนาคมี๔ชนิด คือ


๑.กัฏฐมุข(ดิน) พิษซึ่งทำให้ธาตุดิน(ปฐวีธาตุ)กำเริบ ร่างกายแข็งกระด้างทั้วตัวดุจท่อนไม้แห้ง ระบบการทำงานภายในร่างกาย อาทิ การไหลเวียนของเลือด จะหยุดชะงัก เนื่องจากเกิดการแข็งตัวและตีบตัน ข้อต่อข้อพับทั้งหลายไม่สามารถพับงอได้ ดุจร่างกายถูกเสียบตรึงด้วยหลาวเหล็ก

(กายที่ถูกงูกัฏฐมุขะกัด ย่อมแข็งกระด้าง)


๒.ปูติมุข(น้ำ) พิษซึ่งทำให้ธาตุน้ำ(อาโปธาตุ)กำเริบ จะเกิดอาการบวมพอง และเปื่อยเน่า เนื้อ น้ำเลือด น้ำหนองไหล จะไหลเยิ้มออกจากกายตามบาดแผลที่เปื่อยเน่า เหมือนผลขนุนสุกที่เน่าจนน้ำยางไหลออกตามรอยปริแตก ร่างกายจะเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก

(กายที่ถูกงูปูติมุขะกัด ย่อมเป็นของเปื่อยเน่า)

แต่มีข้อมูลว่าพิษชนิดนี้หากอยู่ในปริมาณที่เหมาะสมจะใช้ในการปลอมตัวได้ เช่น พระนลที่ถูกนาคกัดจนร่างกายแปรเปลี่ยนเป็นชายอัปลักษณ์(เป็นการชั่วคราว)


๓.อัคคิมุข(ไฟ) พิษซึ่งทำให้ธาตุไฟ(เตโชธาตุ)กำเริบ เกิดอาการปวดแสบปวดร้อน ทั่วเรือนร่างของผู้ถูกพิษอัคคิมุขจะไหม้กระจายไปโดยเริ่มจากบาดแผลแผ่ขยายออกไป เป็นเหมือนกำขี้เถ้าและกำแกลบ รึถูกใส่ลงไปในหลุมถ่านเพลิง

(กายที่ถูกงูอัคคิมุขะกัด ย่อมเร่าร้อนพร้อม)


๔.สัตถมุข(ลม) พิษซึ่งทำให้ธาตุลม(วาโยธาตุ)กำเริบ อณูและฟองลมเข้าแทรกตามช่องว่างภายในกาย เช่น เส้นเลือด ทำให้เกิดอาการปั่นป่วนภายในกาย ทั่วเรือนร่างของผู้ถูกพิษสัตถมุข จะฉีกขาดเป็นช่องดุจถูกศาสตราวุธฟาดฟัน บาดแผลฉีกขาดจากพิษสัตถมุขจะมีลักษณะดุจรอยฟ้าผ่า(สายฟ้าฟาด) เกิดจากฟองลมเข้าแทรกตามเส้นเลือดจนเกิดแรงดันมหาศาลทำให้ผิวหนังซึ่งหุ้มเส้นเลือดบริเวณนั้นเกิดการฉีกขาด รูปฟ้าผ่าที่เกิดขึ้น คือ ร่องรอยของเส้นเลือดใต้ผิวหนังที่ถูกแรงลมดันจนฉีกขาด(อาจคล้าย lichtenberg scar ร่องรอยแผลเป็นจากการถูกฟ้าผ่า)

(กายที่ถูกงูสัตถมุขะกัด ย่อมถูกตัดขาด)



วิธีการทำร้ายด้วยพิษมี๔ชนิด คือ


๑.ทัฏฐะวิสะ มีพิษที่เขี้ยว(ฟัน) เมื่อขบกัดแล้ว จะเกิดพิษซ่านไปทั่วร่างกาย


๒.ทิฏฐะวิสะ มีพิษที่ดวงตา เมื่อเพ่งมองแล้ว จะทำให้ธาตุกำเริบจากภายใน(อาจรวมถึงการพ่นพิษออกทางตา หรือ การมีน้ำตาเป็นพิษด้วย)


๓.ผุฏฐะวิสะ มีพิษที่กาย เมื่อกระทบสัมผัสพิษจะซ่านไปทั่วร่างกาย


๔.วาตาวิสะ มีพิษที่ลมหายใจ แผ่ฟุ้งกระจายไปตามลม



ลักษณะการทำร้ายของพิษมี๔ชนิด คือ


๑.อาคตวิโส โน โฆรวิโส มีพิษแผ่ซ่านไปอย่างรวดเร็วแต่ไม่รุนแรง(พิษแล่น พิษไม่ร้าย)


๒.โฆรวิโส โน อาคตวิโส มีพิษรุนแรงมาก แต่พิษนั้นแผ่ออกไปช้าๆ(พิษร้าย พิษไม่แล่น)


๓.อาคตวิโส จ โฆรวิโส จ มีพิษแผ่ซ่านไปอย่างรวดเร็วและรุนแรงมาก(พิษแล่น พิษร้าย)


๔.เนว อาคตวิโส น โฆรวิโส มีพิษแผ่ช้าๆและไม่รุนแรง(พิษไม่แล่น พิษไม่ร้าย)

ประเภท: อื่นๆ

บล็อกที่น่าจะชอบ

11/04/2016
เขียนบล็อกที่ Ookbee สวัสดีครับ ผมชื่อแบงค์นะ บางคนก็รู้จักผมในชื่อ webang111 เข้าเรื่องเลยละกันนะ วันนี้ถ่ายตอนลงสีน้ำมาแชร์ เรียกว่าแชร์ละกัน ไม่ได้สอนนะ ความสนุกมันอยู่ตรงที่เราต้องทำความคุ้นเคยกับอุปกรณ์(กระดาษ)นี้หล่ะ เปลี่ยนทีก็ต้องปรับกันที หากเกล
27/04/2017
เห็นแล้วกรี๊ดเลยค่ะ !! (กรี๊ดดดดด) ไม่แนะนำไม่ได้แล้วจริงๆ โดยเฉพาะนักวาดสาย Y เมื่อ Ebimo นักวาดผู้มีประสบการณ์ด้านมังงะสาย BL ออกคอลเลคชั่นท่าโพส “คู่รักชาย-ชาย” ให้นักวาดได้ซื้อไปฝึกฝนและเรียนรู้ท่าทางการวาดมังงะสาย BL ให้ดูแซ่บสมจริงยิ่งขึ้น ด้วยข้อมู
06/12/2016
ยังคงเป็นอีกหนึ่งปัญหา สำหรับนักเขียนการ์ตูนมือใหม่ ที่หลังจากได้คิดเรื่องที่จะนำมาเขียนการ์ตูนแทบหัวระเบิด พอได้พล็อตเรื่องที่อยากจะเขียนแล้ว ไปหาข้อมูลในเรื่องที่อยากจะเขียนมาพอสมควรแล้ว กลับเขียนไม่ออกไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นเขียนอย่างไรดี นั้นนะซินะ... เร
06/03/2017
เดเระเดเระ デレデレ เป็นคำน่ารัก ที่ใช้กับอาการตกหลุมรัก และมีการนำคำ ๆ นี้มาผสมกับคำอื่นจนเกิดเป็นคำใหม่โดยแต่ละประเภทจะถูกแบ่งออกตามลักษณะนิสัยของตัวละครนั้นๆ เดเระที่ได้ยินกันบ่อยๆ คงจะเป็น ซึนเดเระ แต่รู้หรือเปล่า คำว่า เดเระ นั้นยังมีอีกหลายคำที่มักจะใช้
ส่ง
ความคิดเห็น ()