ผีดิบ(Zombie)ในบันทึกทางพระพุทธศาสนา
วันที่โพสต์: 24/11/2018

จาก ผีดิบ(Zombie)ในบันทึกทางพระพุทธศาสนา


Zombie ในความหมายดั้งเดิมซึ่งมีปรากฏไว้ในบันทึกเรื่องเล่าดั้งเดิม คือศพของมนุษย์ที่ขยับเคลื่อนได้เหมือนคนที่ยังมีชีวิต ทว่าไม่มีความสามารถในการรับรู้คิดอ่านใดๆ เป็นเพียงศพเดินได้ที่มีความสามารถในการใช้แรงงานเพียงอย่างเดียว เกิดจากการที่คนเป็นผู้มีวิชาอาคมไสยศาสตร์ใช้วิชาปลุกขึ้นมาเป็นกรรมกรทาสที่ไม่รู้จักเหนื่อยไว้ใช้แรงงานภายในไร่


มีข้อมูลระบุอีกว่าจุดของ Zombie คือ เกลือ หากได้บริโภคเกลือเข้าไปแม้ในปริมาณเพียงเล็กน้อย Zombie นั้นจะหมดสภาพกลับไปเป็นศพดังเดิมทันทีและและศพนั้นจะไม่สามารถนำมาปลุกขึ้นใหม่ได้อีกเลย(คาดว่า เป็นเพราะเกลือทำปฏิกิริยากับกรดอะมิโนชนิดต่างๆในร่างกายศพ อาจเป็นการลัดวงจรของกระแสไฟฟ้าในร่างกาย จนทำให้ศพนั้นหมดสภาพลงในทันที)


และเนื่องจากตำนานดั้งเดิม ระบุว่า Zombie คือ ศพที่ยังมีสภาพครบสมบูรณ์ ไม่มีร่องรอยของการบุบสลายหรือบาดแผลใดๆ ไม่มีสภาพพองอืดส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง แต่เป็นศพที่เพิ่งตายได้ใหม่ๆ เมื่อมองผ่านๆ Zombie จึงมีสภาพไม่แตกต่างจากคนเป็นมากนัก(นอกจากอาการเหม่อลอยไร้ชีวิตชีวา) ซึ่งแตกต่างจากลักษณะของ Zombie ในภาพยนตร์ยุคปัจจุบันอย่างชัดเจน


เมื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับภาพลักษณ์ของซอมบี้กันเสียใหม่ได้แล้ว ต่อไปจะขอยกข้อมูลของผีดิบ(Zombie)นนสมัยพุทธกาลมีอยู่ใน พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๑ มหาวิภังค์ ภาค ๑ + อรรถกถา ทุติยปาราชิกสิกขาบท ดังนี้


เรื่องศพที่ยังสด
ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งไปป่าช้าแล้ว ถือเอาผ้าสาฎก(ผ้าบังสุกุล)ของศพสด และในร่างศพนั้นมีเปรตสิงอยู่เพราะความอยาก(ครอง)ในผ้าสาฎก(คือ พวกเปรตที่สิงหากินอยู่ในป่าช้ามาสิงในศพของคนที่ตาย ไม่ใช่เจ้าของร่างศพนั้นเข้าสิงศพตัวเอง)
เปรตนั้น ได้กล่าวกะภิกษุนั้นว่า
ท่านผู้เจริญ ท่านอย่าได้ถือเอาผ้าสากฎของข้าพเจ้าไป
ภิกษุไม่เชื่อคำของเปรตนั้น ไม่ทำความเอื้อเฟื้อ(ต่อเปรตนั้น) จึงได้ถือเอาไป
ทันใดนั้น เปรตบังคับให้ศพลุกขึ้นด้วยอานุภาพของตน เดินตามหลังภิกษุนั้นไป
วิหารของภิกษุมีอยู่ในที่ใกล้ป่าช้านั้นเอง เพราะเหตุนั้น ภิกษุเป็นผู้กลัวอยู่โดยปกติจึงรีบเข้าไปในวิหารนั้นแล้วปิดประตู
เมื่อภิกษุปิดประตูแล้วเปรตเป็นผู้หมดความอาลัยในผ้าสาฎก จึงละทิ้งศพนั้นไว้แล้วไปตามยถากรรม เพราะเหตุนั้น ร่างศพนั้นก็ล้มลง
เธอได้มีความรังเกียจว่า เราต้องอาบัติปาราชิกแล้วกระมังหนอ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค


พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุ เธอไม่ต้องอาบัติปาราชิก


ดูกรภิกษุทั้งหลาย อันผ้าบังสุกุลที่ศพสดซึ่งยังอุ่นอยู่ ภิกษุทั้งหลายไม่พึงถือเอา เมื่อภิกษุถือเอา อุปัทวะเห็นปานนี้ย่อมมี (ต่อแต่นี้ไป)ภิกษุใดถือเอา ต้องอาบัติทุกกฏ แต่จะถือเอาจากศพที่แตกแล้วนั้น ควรอยู่


ถามว่า ศพจะจัดว่า แตกแล้ว ด้วยเหตุไร?
แม้ด้วยเหตุเพียงถูกจะงอยปากหรือเขี้ยวอันสัตว์ทั้งหลายมีกา พังพอน สุนัขและสุนัขจิ้งจอกเป็นต้น กัดแล้วนิดหน่อย
ส่วนอวัยวะของศพใดที่ล้มลง เพียงผิวหนังถลอกไปด้วยการครูดสี หนังยังไม่ขาดออก
ศพทั้ง ๒ เหล่านั้นนับว่ายังสดทีเดียว
แต่เมื่อ(ศพใด)หนังขาดออกแล้วจัดว่าแตกแล้ว
แม้ศพใดในเวลายังมีชีวิตนั่นเอง มีฝีโรคเรื้อนและต่อม หรือแผลแตกพรุนทั่วไป ศพ(แบบนี้)นี้ชื่อว่าแตกแล้ว
ตั้งแต่วันที่ ๓ ไป แม้สรีระใดที่ถึงความเป็นซากศพ โดยเป็นศพที่ขึ้นพองเป็นต้น จัดว่าเป็นศพที่แตกแล้วโดยแท้
อนึ่ง แม้ในศพที่ยังไม่แตกโดยประการทั้งปวง แต่คนผู้ดูแลป่าช้า หรือมนุษย์เหล่าอื่นให้ถือเอา(ผ้าบังสกุล)ควรอยู่ ถ้าไม่ได้มนุษย์อื่น(ถือเอาให้)ควรจะเอาศัสตราหรือวัตถุอะไรทำให้เป็นแผล(ก่อน) แล้วจึงถือเอา
แต่ในศพเพศตรงกันข้าม ภิกษุควรตั้งสติไว้ ประคองสมณสัญญาให้เกิดขึ้น ทำให้เป็นแผลที่ศีรษะ หรือที่หลังมือและหลังเท้า(ก่อน) แล้วถือเอาสมควรอยู่


จากบันทึกข้อมูล ประมวลความได้ว่า ศพที่เปรตสามารถสิงและบังคับให้ขยับได้นั้น ต้องเป็นศพที่ยังสด อาจมีร่องรอยบาดแผลเล็กน้อยแต่ก็ยังนับว่าเป็นศพสดอยู่ ในเชิงวิชาไสยศาสตร์เองก็มีการกล่าวถึงการบังคับปลุกศพให้ลุกขึ้นเพื่อใช้ประกอบในพิธีกรรมต่างๆ ซึ่งในกรณีของ Zombie คือการปลุกศพขึ้นมาใช้ประโยชน์ในแรงงาน ซึ่งสิ่งที่ทำให้ศพเหล่านั้นขยับได้ อาจไม่ใช่เจ้าของร่างศพนั้นด้วยซ้ำ เป็นได้ว่า ไสยศาสตร์ว่าด้วยการบังคับควบคุมศพให้ลุกขึ้นทำภารกิจตามประสงค์นี้ จะเป็นการใช้วิชาอาคมในการเรียกเปรตที่มีฤทธิ์ซึ่งอาศัยตามป่าช้าให้เข้ามาควบคุมศพก็เป็นได้ โดยแลกกับบรรดาเครื่องพลี(เครื่องสังเวย)ทั้งหลายที่เหล่าหมอผีจัดไว้บูชาตามความเหมาะสม

ส่วนในกรณีที่ศพซึ่งถูกเปรตเข้าสิงสามารถขยับเขยื่อนร่างกายให้เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระอย่างในปรากฏการณ์สมัยพุทธกาลตามหัวเรื่องนี้ มีความเป็นไปได้ว่า จะเป็นกรณีใกล้เคียงกับที่ปัจจุบันเรียกว่า “โดนปอบสิง” ซึ่งมีรูปแบบคร่าวๆว่าเป็นการเข้าสิงร่างของคนที่ป่วยหนักรึคนชราที่มีอาการร่อแร่ มักเกิดหลังพาไปรักษานอกสถานที่แล้วพากลับมาบ้านหลังจากที่จู่ๆอาการก็ดีขึ้นผิดหูผิดตา(ซึ่งคาดว่าตามจริงคงตายตั้งแต่พาไปรักษานอกสถานที่แล้ว) แต่พอกลับมาบ้านกลับไม่ยอมพูดจาได้แต่นอนนิ่ง บริโภคอาหารคราวละมากๆเกินปริมาณของคนทั่วไปทั้งที่ร่างกายผอมแห้งซูบซีบเหลือแต่หนังหุ้มกระดูกและนัยน์ตาลึกโบ๋ ทว่าครั้นตกกลางคืนเมื่อลับคนก็จะลุกขึ้นเดินเองได้และเที่ยวค้นหาอาหารที่เก็บไว้ไม่ก็ออกไปจับสัตว์เล็กสัตว์น้อยนอกบ้านกิน พออิ่มก็กลับมานอนไร้เรี่ยวแรงเหมือนเดิม เหตุการณ์จะวนเวียนไปเช่นนี้อยู่หลายเดือนกระทั่งถูกจับได้ และหลังจากทำการขับไล่ปอบที่สิงร่างนั้นออกไปก็จะปรากฏว่า ร่างนั้นจะส่งกลิ่นเหม็นเน่า อวัยวะภายในคล้ายละลายเหลวแหลก และมีสภาพเหมือนตายมาได้หลายเดือนแล้ว

ดังนั้นกรณีเปรตสิงศพสดที่เกิดในสมัยพุทธกาล น่าจะจำลองช่วงเวลาเกิดเหตุได้ว่า ภิกษุผู้เข้าไปถือเอาผ้าสาฎก(ผ้าบังสุกุล)ของศพสดซึ่งร่างยังอุ่นอยู่(เพิ่งตายใหม่ๆ)ในป่าช้าในช่วงก่อนพระอาทิตย์ขึ้นเปรตจึงบังคับร่างศพให้ลุกขึ้นเดินตามทวงผืนผ้าคืน ภิกษุนั้นจึงหลบเข้าไปในวิหารใกล้ป่าช้าแล้วปิดประตูเสีย ซึ่งตอนนั้นพระอาทิตย์คงกำลังขึ้นพอดี เปรตเห็นดังนั้นจึงหมดความอาลัยในผ้าสาฎกและทิ้งศพที่สิงไว้แล้วจากไป

บล็อกที่น่าจะชอบ

03/09/2015
ทำอย่างไรให้การ์ตูนยอดวิวเยอะสวัสดีจ้า เพื่อนๆ ชาว Ookbee Comics ผม iTa7 จะมานำเสนอวิธีการเพิ่มยอดวิว ที่ดี!!มีแค่ 3 Step ง่ายๆedit เพิ่มเติมบทความต่อไปนี้ จะเปรียบเทียบวิธีการนำเสนอการ์ตูนบนเว็บไชต์ Ookbee Comicsว่าทำอย่างไรให้วิวเยอะส่วนเรื่องเนื้อหาก็ต
09/03/2016
เอาล่ะค่ะสวัสดีทุกคนกลับมาพบกับเบนซิลอีกครั้งในบทวิเคราะห์หกแฝดนะคะ หลายคนคงสงสัยหน้าดูว่า "เอ๊ะ? ถ้าหกแฝดไม่ใช่นีทล่ะ พวกเขาทำอาชีพอะไรกัน?" นี่คือข้อมูลที่เคยนั่งคิดกับรันรันจัง ผู้ที่ทำบทวิเคราะห์มัสสึเหมือนกันค่ะ 555 (ขอขอบคุณสำหรับความคิดหลายๆอย่างนะ
06/12/2016
ยังคงเป็นอีกหนึ่งปัญหา สำหรับนักเขียนการ์ตูนมือใหม่ ที่หลังจากได้คิดเรื่องที่จะนำมาเขียนการ์ตูนแทบหัวระเบิด พอได้พล็อตเรื่องที่อยากจะเขียนแล้ว ไปหาข้อมูลในเรื่องที่อยากจะเขียนมาพอสมควรแล้ว กลับเขียนไม่ออกไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นเขียนอย่างไรดี นั้นนะซินะ... เร
11/04/2016
เขียนบล็อกที่ Ookbee สวัสดีครับ ผมชื่อแบงค์นะ บางคนก็รู้จักผมในชื่อ webang111 เข้าเรื่องเลยละกันนะ วันนี้ถ่ายตอนลงสีน้ำมาแชร์ เรียกว่าแชร์ละกัน ไม่ได้สอนนะ ความสนุกมันอยู่ตรงที่เราต้องทำความคุ้นเคยกับอุปกรณ์(กระดาษ)นี้หล่ะ เปลี่ยนทีก็ต้องปรับกันที หากเกล
ส่ง
ความคิดเห็น ()