คิซึเนะ
วันที่โพสต์: 26/06/2019

 

                      “ คิซึเนะ ” มีความหมายว่า สุนัขจิ้งจอก ในภาษาญี่ปุ่น คาดว่าชื่อนี้มีที่มาจากคำเลียนเสียงของสุนัขจิ้งจอกว่า คิซึ (kitsu)  ตามความเชื่อเกี่ยวกับสุนัขจิ้งจอกนั้นได้ปรากฏในประเทศ จีน อินเดีย และญี่ปุ่น ที่มีความเชื่อในลักษณะเดียวกัน คาดว่ามีผลกระทบมาจากการแลกเปลี่ยนเผยแพร่ทางวัฒนธรรมของทั้ง 3 ประเทศ  โดยความเชื่อมีจุดเริ่มต้น มาจาก อินเดีย , จีน , ญี่ปุ่น ตามลำดับ แต่ประเทศที่มีความโดดเด่นในเรื่องนี้มากที่สุด คือ จีน และ ญี่ปุ่น 

 

ความเชื่อเรื่องคิซึเนะของแต่ละประเทศ

ปีศาจจิ้งจอกของอินเดีย

        ปีศาจจิ้งจอกนั้นได้ปรากฏในนิทานพื่นบ้านของอินเดีย โดยในนิทานพื้นบ้านนั้นได้กล่าวถึงปีศาจจิ้งจอกมีลักษณะสุนัขจิ้งจอกผสมกับงู

ปีศาจจิ้งจอกของจีน

       ปีศาจจิ้งจอกนั้นได้ถูกปรากฏในตำนานเรื่องห้องสิน ซึ่งตำนานเรื่องนี้นั้นเกี่ยวกับไสยศาสตร์ และ ภูตผีปีศาจ

ปีศาจจิ้งจอกของญี่ปุ่น 

       ตามความเชื่อแล้วคิซึเนะจะมีร่ายกายที่แข็งแรงและอายุยืนยาว หากมีหางเยอะมากเท่าไรก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นมากเท่านั้น ทั้งอายุ และ ความฉลาด อีกทั้งยังมีความสามารถในการจำแลงกายได้ โดยการจำแลงกายนั้น แบ่งออกเป็น         

      3 ประเภทใหญ่ๆคือ สุนัขจิ้งจอก , ครึ่งคนครึ่งสุนัขจิ้งจอก , มนุษย์ การที่คิซึเนะชอบมาปะปนอยู่กับมนุษย์นั้น เชื่อกันว่า คิซึเนะต้องการจะมีความรัก ถ้าคิซึเนะมีลูกกับมนุษย์ ลูกจะมีโอกาสเป็นทายาทของสุนัขจิ้งจอกได้ ตามตำนานของอาเบะ โนะ เซย์เมย์ องเมียงจิที่มีชื่อเสียง เป็นทายาทของสุนัขจิ้งจอก เนื่องจากแม่ของอาเบะ โนะ เซย์เมย์นั้นเป็นสุนัขจิ้งจอกขาวที่มีชื่อว่า คุสุโนะฮะ และพ่อที่เป็นมนุษย์มีชื่อว่า อาเบะ โนะ ยาสึนะ เมื่อ อาเบะ โนะ เซย์เมย์นั้นอายุได้ 5 ขวบ พลังสายเลือดภูติวิญญาณทายาทสุนัขจิ้งจอกก็ได้แสดงฤทธิ์ออกมาให้เห็น   

 

ประเภทของคิซึเนะ 

               คิซึเนะนั้นมีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภท ประเภทแรก คือเมียวบุ เป็นคิซึเนะที่มีนิสัยดีและซื่อสัตย์ที่สุด เป็นสุนัขรับใช้ของเทพอินาริ ซึ่งเป็นเทพแห่งการเพาะปลูก และ เป็นเทพของเหล่าสุนัขจิ้งจอกทั้งมวล เมียวบุนั้นมีหลายสี สีที่บริสุทธิ์ที่สุดคือ สีขาว ประเภทที่ 2 คือ โนะคิซึเนะ หรือ คิซึเนะทั่วไป เป็นคิซึเนะที่มีนิสัยกลางๆไม่ได้ดีและก็ไม่ได้เลวมากเกินไป     มักจะมีสีน้ำตาลหรือสีแดง คิซึเนะประเภทนี้มักจะชอบความอิสระ และมีนิสัยที่เล่ห์เหลี่ยมมากมาย ทำให้บางครั้งก็จะช่วยเหลือผู้คน บางครั้งก็แกลังผู้คน ว่ากันว่าถ้าเมียวบุตนไหนทำตัวไม่ดี เทพอินาริจะขับไสไล่ส่งเมียวบุตนนั้นให้มาเป็นโนะคิซึเนะ ประเภทสุดท้ายซึ่งก็คือ เนโกะมุคิซึเนะ เป็นคิซึเนะที่นิสัยแย่ที่สุดอเป็นพวกที่ใช้พลังเพื่อความสนุกของตนเองเท่านั้น เนโกะมุคิซึเนะเลยกลายเป็นพวกที่สร้างชื่อเสียงแย่ๆให้กับเหล่าคิซึเนะทั้งหมด ทำให้เนโกะมุคิซึเนะกับเมียวบุนั้นไม่ค่อยจะถูกกัน เชื่อกันว่าพวกเนโกะคิซึเนะไม่ชอบเทพอินาริ และ เนโกะมุคิซึเนะแทบทั้งหมดนั้นมักจะเป็นสีดำ ซึ่งเป็นสีที่ไม่บริสุทธิ์   

 

ความแตกต่างของคิซึเนะ 

        คิซึเนะจะนับพลังตามจำนวนที่มี  ตามตำนานแล้วหากคิซึเนะตาย หางของคิซึเนะจะลดไปตามจำนวนการตาย  ถ้าอยากมีหางเพิ่มจะต้องดูดวิญญาณมาให้มากพอ โดยมีลำดับดังต่อไปนี้                                                                                          

  1 หาง หรือ อิจิบิ เป็นคิซึเนะที่มีพลังน้อยสุด                                                                                                                

  2 หาง หรือ นิบิ เป็นคิซึเนะที่เริ่มเข้าสู่หนทางแห่งคิซึเนะ                                                                                              

  3 หาง หรือ ซันบิ เป็นช่วงเวลาที่คิซึเนะจะต้องเลือกว่าจะเรียนวิชาทางด้านไหน                                                            

  4 หาง หรือ ยงบิ เป็นช่วงเวลาที่คิซึเนะได้สำเร็จวิชาที่ตนได้เลือกไว้ และ สามารถสร้างภาพลวงตาเพื่อหนีจากการล่าได้    

  5 หาง หรือ โกะบิ เป็นช่วงเวลาที่เริ่มเข้าสู่หนทางแห่งชีวิต เพื่อที่จะกลายเป็น 9 หาง                                                         

  6 หาง หรือ รคคุบิ เป็นคิซึเนะที่มีประสบการณ์ สามรถเปลี่ยนภาพลวงตาให้เป็นความจริงได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง หลังจากพลังภาพลวงตาหมดลง สภาพจะ  กลับกลายเป็นตามเดิม บางตำนานได้กล่าวไว้ว่าหากคิซึเนะตนไหนมาถึง 6 หางได้ คิซึเนะนั้นจะเป็นอมตะ

  7 หาง หรือ ชิชิบิ เป็นคิซึเนะที่มีความแข้งแกร่งเป็นพิเศษ จึงทำให้แทบที่จะไม่มีอะไรทำร้ายได้

  8 หาง หรือ ฮาชิบิ เป็นคิซึเนะที่ครอบครองพลังทั้งหมดตามทีได้กล่าวมาข้างต้น เป็นช่วงที่คิซึเนะได้สะสมพลังไว้เพื่อที่จะเป็น 9 หาง 

  9 หาง หรือ คิวบิ เป็นคิซึเนะที่สามารถควบคุมพลังได้อย่างสมบูรณ์แบบ มีพลังระดับถึงเทพเจ้า

  10 หาง หรือ จูบิ เป็นระดับสุดท้าย แต่ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าคิซึเนะจะมาถึงระดับนี้ได้โดยวิธีไหน เชื่อกันว่าหากคิซึเนะตนไหนทำสำเร็จจะมีพลังเทียบเท่าเทพอินาริ ซึ่งเป็นเทพแห่งเหล่าสุนัขจิ้งจอกทั้งมวล                                                                       

                         ปีศาจจิ้งจอกของทั้ง 3 ประเทศ ล้วนมาจากตำนานหรือนิทานพื้นบ้าน บางความเชื่อก็มีคล้ายกัน บ้างก็แตกต่าง เช่นรูปร่างของปีศาจจิ้งจอก ปีศาจจิ้งจอกของอินเดียมีรูปร่างสุนัขจิ้งจอกผสมกับงู แต่ของ จีนและญี่ปุ่น ไม่มีงูผสม       เป็นสุนัขจิ้งจอกธรรมดา และมีพลังตามจำนวนหางที่เหมือนกัน หางน้องก็จะมีพลังน้อย หางมากก็ยิ่งมีพลังมากเท่านั้น 

 

 

      อ้างอิง

 ตำนานญี่ปุ่น. (2553, กรกฏาคม 31). https://writer.dek-d.com. Retrieved from https://writer.dek-d.com: https://writer.dek-d.com/illusion999/story/viewlongc.php?id=638805&chapter=18

 ตำนานญี่ปุ่น. (2553, กรกฏาคม 31). https://writer.dek-d.com. Retrieved from https://writer.dek-d.com: https://writer.dek-d.com/illusion999/story/viewlongc.php?id=638805&chapter=19

 Danny TH. (2560, ธันวาคม 29). องเมียวจิ : ตำนานภูติ ซันบิ โนะ คิทสึเนะ .

 

บล็อกที่น่าจะชอบ

03/12/2015
ขอกล่าวโดยสังเขปก่อนนะครับ อันนี้เป็นเทคนิกการแต่งเนื้อเรื่องโดยส่วนตัวของผม (โดยเฉพาะการ์ตูน comic) ไม่ได้หมายความว่ามันจะต้องถูกต้องหรือดีที่สุด แต่แค่อยากจะแชร์เล็กๆน้อยๆให้แก่ทุกท่านนะครับงั้นเรามาเริ่มกันเลย1. เนื้อเรื่องที่น่าสนใจต้องมีการหักมุมแน่น
14/03/2017
**อัพเดท 14/03/2560จริงๆเคยอัพในเฟสส่วนตัวไปแล้วรอบนึงแต่รู้สึกอยากเอามาลงอีกรอบเพิ่มดีเทลอะไรให้มากขึ้นค่ะ(+เพิ่มเติมในส่วนของการเลือกซื้อ) แต่จะลงในเพจก็ไม่ค่อยได้อารมณ์เท่าไหร่ เคยสมัครเอาไว้แถมมีบล็อกด้วยงั้นอัพในนี้เลยละกัน-----**หมายเหตุนิดนึง ในที่
14/11/2017
ตอนเด็กๆหลายคนก็ต้องเคยคิดนู่นคิดนี้ จินตนาการบรรเจิดถึงระดับที่ว่าสิ่งที่อยู่ในหัวยิ่งใหญ่อลังการ แล้วก็ต้องถ่ายทอดมันออกมาเป็นภาพวาด (คิดถึงสีเทียนจังเลยแฮะ) อาจจะออกมาสวยงามบ้าง ดูเป็นงานเด็กๆบ้าง แต่ถ้ามีมือโปรมาช่วยสานต่อจินตนาการให้แบบจัดเต็มล่ะ?
06/03/2017
เดเระเดเระ デレデレ เป็นคำน่ารัก ที่ใช้กับอาการตกหลุมรัก และมีการนำคำ ๆ นี้มาผสมกับคำอื่นจนเกิดเป็นคำใหม่โดยแต่ละประเภทจะถูกแบ่งออกตามลักษณะนิสัยของตัวละครนั้นๆ เดเระที่ได้ยินกันบ่อยๆ คงจะเป็น ซึนเดเระ แต่รู้หรือเปล่า คำว่า เดเระ นั้นยังมีอีกหลายคำที่มักจะใช้
ส่ง
ความคิดเห็น ()