ชาวญี่ปุ่นเป็นอีกชาติหนึ่งที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการ “ถ่ายรูป” มากที่สุด (แต่อันดับ 1 นี่อาจจะเป็นบ้านเรา) ผู้คนส่วนใหญ่ชื่นชอบการถ่ายรูปมากกกกถึงมากที่สุด จนแทบจะเรียกได้ว่าไม่มีนัดใดๆ ในโลกนี้ที่ชาวญี่ปุ่น (รวมไปถึงคนส่วนใหญ่) จะไม่หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูป ไม่ว่าจะเป็น งานเลี้ยงบริษัท งานแต่ง งานทอดกฐิน (เอ๊ะ) หรือนัดเที่ยวชิคๆ กับกลุ่มเพื่อน ก็จะต้องมีการกดชัตเตอร์รัวๆ ไม่ต่ำกว่า 2500 ภาพแน่ๆ (นั่นก็เว่อไป๊!)
http://www.gamefaqs.com/vita/734608-sword-art-online-hollow-fragment/images/210
อันที่จริงแล้วต่อให้ไม่ต้องมีนัดพบปะคนอื่น ถึงแม้เราจะอยู่บ้านคนเดียว เปล่าเปลี่ยวหัวใจ พี่ไทย … เอ้ย คนญี่ปุ่นก็สามารถมีความสุขกับการถ่ายเซลฟี่หรือแบ่งปันภาพความสุขได้ตลอดน่ะแหละ เช่นเวลาไปกินของอร่อยๆ หรือตัดผมทรงใหม่มา เราก็มักจะมีการถ่ายรูปอัปลง facebook, Instagram อวดให้ชาวบ้านได้รับรู้ (แต่ครั้งไหนที่ช่างตัดพลาดออกมาผิดทรง ก็อยู่เงียบ ๆ เจียมๆ กันไป)
https://twitter.com/KSeishin/media
ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามานี่ไม่ใช่เรื่องผิดแปลก หรือผิดกฎหมายอะไร ยังไม่เคยมีปรากฎว่าใครโดนพี่จ่าจับไปขังโทษฐานเซลฟี่เกินความจำเป็นสักคน แต่ความจริงแล้ว การเซลฟี่ก็มีท่าที่ต้องระมัดระวังอยู่ ซึ่งดันเป็นท่าที่หลายๆ คนชอบทำกันด้วย นั่นก็คือท่า “Peace Sign” หรือ ท่าชู 2 นิ้ว นั่นเอง
เรื่องนี้ ศาสตราจารย์ “Isao Echizen” จากสถาบันวิจัยข้อมูลสารสนเทศแห่งชาติ ได้ออกมากล่าวว่า โดยปกติแล้วเขาไม่ได้มัญหากับการที่คนส่วนใหญ่ชื่นชอบการถ่ายรูป แต่ก็อยากจะเตือนให้ระวังในเรื่องของ “ท่าทางการโพส” คือถ้าเป็นไปได้ก็พยายาม “อย่าให้นิ้วของเราเข้าไปอยู่ในเฟรม” เพราะคุณภาพของกล้องมือถือสมัยนี้ไม่เหมือนในอดีตแล้ว แต่ล้ำขึ้นมาก ยิ่งรุ่นใหม่ๆ ความละเอียดของภาพก็ยิ่งมากขึ้น ซึ่งนั่นอาจทำให้ผู้ที่ไม่หวังดีนำรูป “ลายนิ้วมือ” ในภาพไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสมเอาได้
โดยศาสตราจารย์ Echizen ได้ทำการทดลองและพบว่า หากถ่ายรูปในท่า “Peace sign” ในระยะที่ใกล้กว่า 3 เมตร มีความเสี่ยงที่จะถูกนำภาพรอยนิ้วมือไปใช้ได้ ทางที่ดี ถ้าอดใจไม่ไหวอยากจะโชว์นิ้วในรูปของตัวเองจริงๆ (ประมาณว่านิ้วสวยมาก อยากโชว์สุดๆ!) ก็ควรจะเอานิ้วอยู่ห่างจากกล้องให้มากกว่า 3 เมตรก็จะช่วยป้องกันความเสี่ยงจากการถูกนำภาพรอยนิ้วมือไปใช้ได้แล้วล่ะ
http://www.idownloadblog.com/2014/12/29/fingerprint-from-photo/
แต่ถึงอย่างไรก็ตามมีรายงานเพิ่มเติมว่า ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นข้อมูลในปี 2014 ซึ่งยืนยันว่า การนำภาพลายนิ้วมือจากรูปไปใช้นั้นสามารถทำได้จริง" แต่ !! การที่จะนำรอยนิ้วมือในรูปไปใช้ จะต้องวิเคราะห์จากภาพถ่ายหลายรูป และแต่ละรูปต้องเป็นการถ่ายแบบซูมชัดจัดเต็ม ! แต่ก็อย่างว่าว่านั่นคือเทคโนโลยีเมื่อปี 2014 แต่ปีนี้ 2017 แล้ววิทยาการความล้ำของกล้องก็อาจจะล้ำยิ่งขึ้น การแสกนลายนิ้วมือจากภาพก็มีแนวโน้มที่จะง่ายขึ้นได้ ดังนั้นต่อไปถ้าจะเซลฟี่สองนิ้ว แอดแนะนำให้ทำท่านี้แทนนะ 55555
http://comicvine.gamespot.com/forums/battles-7/cav-batman-vs-jonathan-joestar-1685075/
โจนาธาน สไตล์ !!
Thank Source : D
: IT Media/Sankei Shimbun
: https://twitter.com/imphobia
: http://www.idownloadblog.com/2014/12/29/fingerprint-from-photo/
: https://www.facebook.com/thematterco/photos/pb.1721313428084052.-2207520000.1484196265./1826381970910530/?type=3&theater
: http://en.rocketnews24.com/2017/01/10/skip-the-peace-sign-security-researcher-cautions-against-striking-japans-favorite-picture-pose/
ข้อมูลจะถูกนำออกทำให้ไม่สามารถอ่านได้อีกน่าเสียดายมากเลย
แน่ใจแล้วหรือที่ต้องการลบข้อมูลออก
หากยืนยันแล้วจะไม่สามารถกู้คืนมาได้อีกนะ!