คุณผู้โดยสารจะเดินทางด้วยวิธีไหนดีครับ?
วันที่โพสต์: 16/09/2019

 

 

หลายๆคงคงต้องใช้เวลาในแต่ละวันไปกับการเดินทาง ไปเรียนบ้าง ทำงานบ้าง หรือไม่ก็ไปเที่ยว แต่ก็รู้ๆกันว่าบางครั้งการเดินทางมันไม่ใช่เรื่องสนุกเลย ไหนจะรถติด รอรถก็นาน คนก็เยอะ เบียดกันอย่างกับปลากระป๋องอัดแน่น กว่าจะถึงที่หมาย ผมที่นั่งทำมาตั้งนานก็กระเซิงหมดแล้ว หน้าที่แต่งมาอย่างแน่นก็มันแผล็บจนเอาไข่มาทอดได้ แถมยังรู้สึกใกล้ชิดและอบอุ่นกับคนที่ยืนเบียดกันข้างๆมากเกินความจำเป็นอีกต่างหาก แต่เขาว่ากันว่า ถ้าใจเราว่าดี อะไรๆมันก็จะดีเองค่ะ เหมือนกับการเดินทางในชีวิตประจำวัน ถ้าเราคิดว่าดีมันก็ดีเองแหละ(?)

 

ไหนๆเราก็อยากจะมีความสุขกับการเดินทางแล้ว เราก็มาทำให้มันสนุกด้วยการทำให้พี่วิน รถไฟฟ้า คุณแท็กซี่ และอีกเยอะแยะ กลายมาเป็นคาแรคเตอร์กันดีกว่า จะได้มีกำลังใจมากขึ้น เหมือนเปลี่ยนรถเมล์ให้เป็นสีชมพูแล้วจะดูสดใสน่านั่งขึ้นมาทันที

 

 

 

BTS “ถ้าผมจะขึ้นค่าโดยสาร แล้วคุณจะทำไมครับ?”

เปิดคนแรกด้วยนักร้องเกาหลีชื่อดังอย่างวง BTS (เดี๋ยวๆๆ) หลายๆคนต้องพึ่งพาเขาในการเดินทางไปเรียนไม่ก็ไปทำงาน  BTS เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่กำลังเร่งรีบหรือรำคาญเวลารถติด ค่าตัวของเขาค่อนข้างแพง แถมราคายังขึ้นเรื่อยๆอีกต่างหาก บางคนไปกลับทีนึงก็หมดเงินไปเกิน 100 บาท แต่ก็ต้องยอมรับว่า BTS ทำให้ระยะเวลาในการเดินทางของเราสั้นลงจริงๆ แม้ว่าเราจะต้องเข้าไปเบียดกับคนมหาศาลก็เถอะ ยิ่งถ้าขึ้นที่สถานีสยามก็ไม่ต้องพูดถึงจำนวนผู้โดยสารที่เราต้องเข้าไปแนบชิดด้วยเลย

 

 

 

 

MRT “ผมจะสร้างเส้นทางทั้งสายสีม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง ส้ม แดง ให้ครบสีรุ้งเลยยย”

อีกหนึ่งตัวเลือกที่สะดวกสบายไม่แพ้ BTS แต่รถไฟใต้ดินของเรามีความ friendly กว่าเยอะ ห้องน้ำก็มีให้เข้าแบบไม่ต้องไปขอพนักงาน บางสถานีก็มี Metro Mall ให้เดินเล่น มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้เยอะแยะ แถมยังมีเส้นทางหลากหลายเปิดให้บริการอีกด้วย แต่ก็ไม่มีใครเพอร์เฟ็คไปหมดทุกอย่างหรอก ถึงจะสบายแค่ไหน แต่คุณ MRT ก็ยังมีข้อเสียตรงที่บางวันก็ไม่ตรงต่อเวลาเอาซะเลย แถมช่วงเวลาเข้างานกับเลิกงานคนก็แน่นมากๆเกือบทุกสถานีอีกด้วย

 

 

 

 

Taxi “ไม่ไปอ่ะ ส่งรถ”

ถึงแม้ว่าประชาชนประเทศกรุงเทพหลายๆคนจะเคยชินกับการขึ้นรถไฟฟ้าทั้งใต้ดินและบีทีเอส แต่มันก็ไม่ได้พาเราไปถึงที่หมายได้ขนาดนั้น พี่แท็กซี่จึงเป็นเหมือนคนที่รับช่วงต่อพาเราไปในที่ๆรถไฟฟ้าเข้าไม่ถึง หรือบางคนก็ไม่ชอบขึ้นรถหลายต่อ โบกแท็กซี่ทีเดียวยาวๆไปเลยดีกว่า แต่ความลำบากที่มาคู่กับความสบายก็ยังคงมีให้เห็นเป็นประจำ แท็กซี่ก็เช่นกัน กว่าจะโบกเรียกได้แต่ละครั้งมันช่างปวดใจเสียเหลือเกิน ในบางพื้นที่ก็ใช่ว่าจะมีแท็กซี่ขับผ่านมาบ่อยๆ แถมมาแล้วยังโดนป้าที่มาทีหลังโบกตัดหน้าไปอีก พอเราโบกได้ พี่แท็กซี่คนดีก็หงายการ์ด ไปส่งรถ เติมแก๊ซ ไม่ไปเพราะรถติด เพราะเส้นทางมันใกล้เกินไป ไม่ก็ไกลเกินไป งงใจไปหมดแล้วค่ะ ตกลงต้องเดินทางไปไกลๆหรือไปใกล้ๆ พี่ถึงจะยอมไปส่งพวกหนู แล้วยังจะชวนคุยอะไรก็ไม่รู้ ที่ทำให้เราประหม่ามากๆอีกด้วย ถ้าตอบผิดพี่เขาจะถีบเราลงจากรถมั้ย? แต่ก็ไม่ใช่ว่าแท็กซี่ทุกคนจะเป็นแบบนี้ บางคนก็ใจดีมากๆ ลดราคาปัดเศษให้ด้วย ถึงแม้บางทีเส้นทางที่เราไปมันรถติดและเสียเวลามากๆ แต่พี่แท็กซี่หลายๆคนก็ยอมพาเราไปส่งถึงที่หมายในวันที่เราจนปัญญา แอดว่าแล้วแต่ดวงจริงๆว่าจะได้เจอคนแบบไหน

 

 

 

 

รถเมล์ “ไปเสาวรีย์ขึ้นเลยยย ตรงกลางว่างอีกกกก”

อีกหนึ่งการเดินทางที่ยากจะคาดเดา ใครไม่ค่อยได้ขึ้นรถเมล์ ก็อาจจะมีงงกันบ้าง ต้องขึ้นฝั่งไหน จะไปตรงนี้ต้องลงตรงไหน ขึ้นสายอะไรใกล้ที่สุด ถ้าไม่เคยไปแล้วจะรู้ได้ยังไงว่าป้ายนี้คือป้ายที่เราต้องลง งงในงงไปอีก หลายๆคนพยายามทำแผนผังเส้นทางการเดินรถให้ประชาชนได้ทำความเข้าใจ แต่ก็ยังมีคนสับสนกันอยู่ดี บางป้ายก็มีรถขับผ่านมาเรื่อยๆ บางป้ายก็ร้างซะเหลือเกิน แถมสายที่เราจะขึ้นก็มักจะขับผ่านตอนที่เราไม่ต้องการ และหายสาบสูญในช่วงที่เราอยากกลับบ้าน การขับของเขาก็ช่างนุ่มนวลและอ่อนโยน เบรกทีนึงก็หัวโขกเก้าอี้ข้างหน้า ถ้ายืนก็เซไปซบไหล่เปียกเหงื่อของคนข้างๆได้ โรแมนติกไปอีก(หรอ) ถ้าวันไหนเราไม่มีเหรียญหรือแบงค์ย่อย ก็ลองจ่ายด้วยแบงค์ร้อยหรือแบงค์ใหญ่กว่านั้นดู แล้วคุณจะสัมผัสได้ถึงสายตาอันเกรี้ยวกราดของกระเป๋ารถเมล์ ตอนจะลงจากรถก็ต้องเดินไปกดกริ่ง รู้สึกหมือนได้เล่นหนังแอคชันที่พระเอกจะต้องวิ่งบนรถที่กำลังวิ่งด้วยความเร็วบนถนนขรุขระ แต่ถ้าขาดเขาไปก็ลำบากเหมือนกัน ไปไม่ถูกกันเลยทีเดียว

 

 

 

 

สองแถว “ชิดในหน่อยยยยย”

เป็นการเดินทางอีกรูปแบบที่เบียดกันอัดแน่นไม่ต่างจากรถไฟฟ้า เผลอๆเบียดกว่าอีก พื้นที่ทุกตารางนิ้วบนรถเป็นสิ่งมีค่า ต้องยัดเข้าไปให้ถึงที่สุดโดยไม่ต้องสนใจคนที่ยืนโหนเสาจนเกือบจะตกรถแล้ว แม้ว่าท้ายลดจะรับน้ำหนักมากจนน่ากลัว แต่ถ้าคนขับบอกว่าโอเค ก็โอเค๊ ไปก็ด้ายยยยย เพราะถ้าให้เดินเองก็คงขาลาก นั่งวินก็แพง อดทนกันซักนิด แปบเดียวก็ถึงที่หมายแล้ว แต่ถ้าวันไหนคนไม่เยอะก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ทั้งชิลและสบายกระเป๋าเลยนะ

 

 

 

 

วินมอไซค์ “ลงไหนนะ?”

ปกติพี่วินเป็นคนไม่ค่อยพูด ยกเว้นคุณลุงที่บ่นนู่นบนนี่ไปเรื่อย แต่เราก็ทำได้แค่หัวเราะตอบ เพราะความเร็วในการเคลื่อนที่มันช่างว่องไวเหมือนเดอะแฟลช จนแทบจะไม่ได้ยินเสียงอะไรนอกจากเสียงลมที่พัดอัดหน้า แอดคิดว่าการนั่งวินออกถนนใหญ่ถือเป็นความเสี่ยงอย่างหนึ่งของชีวิตเลย เพราะเราไม่รู้ว่าวันนี้พี่วินจะพาเราไปปาดหน้ารถบรรทุกรึเปล่า วันนี้รถจะล้มมั้ย พี่คะขาหนูจะเข้าไปเกี่ยวในล้อรถข้างๆแล้ววว เป็นคนที่ใช้ชีวิตโลดโผนซะเหลือเกิน หลายครั้งที่รู้สึกว่าเราต้องนั่งเกร็งจนก้นชา ต้องมีสติตอนนั่งอยู่ตลอดเวลา ไม่งั้นเราอาจจะลงไปกองอยู่กับพื้นก็เป็นได้ แต่ถ้าชีวิตขาดพี่วินไปก็ถือว่าลำบากนะ บางทีนั่งแท็กซี่คนเดียวก็ไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่ นั่งวินประหยัดกว่า แถมยังแทรกกลางระหว่างรถได้อีก ถ้าไม่ติดไฟแดงก็ไปได้เรื่อยๆเลยทีเดียว เป็นอีกตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่เร่งรีบ

 

 

 

 

ตุ๊กๆ “ไปป่าวๆ เฮลโล่วดูยูว๊อนทูโก?”

 สีสันของชีวิตการเดินทางต้องยกให้พี่ตุ๊กๆคนนี้เลย ยิ่งตามแลนด์มาร์คยิ่งบันเทิง มีไฟเจ็ดสีวิบวับเหมือนอยู่ในผับ ลีลาการขับของเขาช่างโฉบเฉี่ยวและว่องไวดุจสายลม นักท่องเที่ยวต่างชาติมาเมืองไทยก็ต้องลองขึ้นตุ๊กๆดูซักครั้ง เหมือนเป็นของขึ้นชื่อของประเทศเรากันเลยทีเดียว มีทั้งโมเดล ข้าวของเครื่องใช้ และสินค้าอีกเยอะแยะมากมายให้นักท่องเที่ยวซื้อเป็นของฝาก แต่คนไทยด้วยกันเองก็คงเห็นตุ๊กๆบ่อยจนชินไปแล้ว บางคันก็รอรับเฉพาะชาวต่างชาติเท่านั้น เพราะบวกเงินได้ดีกว่า บางคันก็ใจดี รับคนไทยไปส่งให้ถึงที่แม้ว่าจุดหมายจะห่างไกลแค่ไหนก็เถอะ ยิ่งถ้าได้ขึ้นรถตุ๊กๆกับเพื่อนช่วงมัธยมก็จะยิ่งสนุกเข้าไปอีก เหมือนได้ออกผจญภัยพร้อมสหายผู้กล้า

 

 

 

 

เรือ “ฉีกตั๋วๆๆๆๆ อยู่กับพี่ ไม่มีตกคลอง”

หนึ่งสิ่งที่อยากใหทุกคนได้ลอง ก็คือการขึ้นเรือในวันที่ฝนตกหนัก น้ำก็จะแรงกว่าปกติ พื้นก็จะลื่นๆ โป๊ะก็จะโยกเยก เหมือนธรรมชาติกำลังพยายามจะกล่อมให้เราลงไปแหวกว่ายในน้ำสีเข้มๆ คนบนเรือก็จะมีความแข็งแรงมากกว่าคนทั่วไป สามรถห้อยโหนและเดินบนเรือที่กำลังแล่นได้ ไม่ว่าสภาพอากาศในวันนั้นจะเป็นยังไง ทั้งๆที่เราเอามือปิดหน้าแทบตาย ตอนน้ำกระเด็นขึ้นมา แต่คนเก็บตังค์นั้นโนสนโนแคร์ ไม่สะทกสะท้านกับแสงแดดและสายน้ำเลยแม้แต่น้อย ต้องเข้มแข็งเบอร์ไหนถึงจะยื่นหน้าไปรับน้ำจากคลองแสนแสบได้

 

 

 

 

และนี่ก็คือหนุ่มๆทั้ง 7 จากการเดินทางแต่ละอย่างที่แอดประสบพบเจอ แน่นอนว่ายังมีอีกเยอะไม่ว่าจะเป็นรถตู้ แอร์พอร์ตลิงค์ รถกระป๊อ และอื่นๆอีกมากมายมหาศาล อันนี้เป็นแค่ตัวอย่างที่แอดเชื่อมั่นว่าทุกคนต้องเคยสัมผัสซักอย่างหรือไม่ก็ได้ลองมาหมดแล้ว ชีวิตการเดินทางมันช่างเต็มไปด้วยการผจญภัยจริงๆ ทั้งสนุก ตื่นเต้น น่าลุ้น และยังสอนให้เรารู้จักอดทนและใช้สอยพื้นที่ว่างได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย แอดประทับใจจริงๆค่ะ

 

 

 

 

 

ถ้าแอดโดนอุ้มก็อย่าลืมซื้อกะเพราหมูกรอบไข่ดาวกับชาเย็นมาเยี่ยมแอดด้วยนะคะ

 

 

 

 

-

 

ประเภท: สนุกๆ

บล็อกที่น่าจะชอบ

03/01/2018
แอดเคยพรีเซนต์หนุ่มสวยไปแล้วในบล็อกนี้ สาวๆเหล่านี้เป็นผู้ชาย?!!!มีหรอที่แอดจะข้ามสาวหล่อไป ติดแทรปมาเยอะ เจ็บมาเยอะ... แต่มันยังไม่พอค่ะ โลกการ์ตูนมหาสนุกมีเรื่องน่าตื่นตาตื่นใจเยอะแยะมากมาก เราต้องมาติด Reverse Trap หรือแทรปสาวหล่อที่เหมือนผู้ชาย จนรู
18/01/2017
วันก่อนเห็นต้นแบบของพิชิตไปแล้ว มีหรอที่จะพลาดตัวละครหลักทั้งสามคนอย่างยูริ วิคเตอร์ และยูริโอะ ต้องบอกก่อนเลยว่าต้นแบบของทั้งสามคนเป็นคนที่น่าจับตามองจริงๆ ตอนแรกแอดก็ดูอนิเมะไปเพลินๆนะ แต่พอได้เห็นการแสดงของแต่ละคนแล้วอยากจะผันตัวไปเป็นแฟนคลับนักสเก็ตตั
24/04/2017
Blog นี้เอาใจสาวๆ ที่ชอบหนุ่มๆ สายรับ (เอ๊ะ) หมายถึงหนุ่มๆ หน้าแบ๊วแป๊วแว้ว น่าเลี้ยง (เอ๊ะ !!!) หมายถึง “หนุ่มเคะ” น่ารัก น่าดูแลนี่แหละ สำหรับคนที่ยังงงๆ หรือสับสนกับคำว่า เคะ เมะ อธิบายสั้นง่าย ได้ใจความแบบนี้ละกันว่า攻める (semeru) = โจมตี (รุก) >>> เซเม
25/04/2017
ถ้าในโลกใบนี้ มีคนที่เหมือนเรา จะเป็นยังไงนะ? ดูคนหน้าเหมือนกันไปแล้วในบล็อกนี้ 20 คู่ตัวละครที่เหมือนจนคิดว่าเป็นญาติกัน?! มาดูตัวละครที่เป็นฝาแฝดกันจริงๆบ้างดีกว่า มีทั้งแฝดสอง สาม สี่ ห้า หก จิ้งจกยัดไส้กกันเลยทีเดียว เราจะยอมให้มีคนเหมือนเราอีกคนดีรึเ
ส่ง
ความคิดเห็น ()