กว่าจะได้เป็นนักเขียนการ์ตูน บทที่1 : ตอนที่ 2 : เขียนเรื่องอะไรดี
วันที่โพสต์: 23/02/2015


 

บทที่1 เขียนเรื่องให้ได้เรื่อง 

ตอนที่ 2 : เขียนเรื่องอะไรดี

    หัวข้อต่อไปที่นักเขียนการ์ตูนทุกคนจะต้องเจอ คือ "เรื่องที่จะเขียนŽ" มีหลายคนที่เคยนำการ์ตูนมาเสนอที่สำนักพิมพ์หรือน้องๆ ที่เคยเข้ามาเรียน Mini Workshop มักจะมีคำถามนี้มาถามผมอยู่เป็นประจำว่า "เขียนเรื่องอะไรดี?"Ž นั้นซิครับ เขียนเรื่องอะไรดี อันนี้ผมก็ตอบให้ไม่ได้หรอกนะครับว่าน้องๆ จะเขียนเรื่องอะไรดี เพราะว่านักเขียนแต่ละคนจะมีประสบ การณ์ไม่เหมือนกัน มีความนึกคิดที่ไม่เหมือนกัน มีความสามารถที่ไม่เหมือนกัน และอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างกัน ผมจึงไม่สามารถบอกได้ทันทีว่านักเขียนคนไหนควรเขียนเรื่องอะไรดี แต่ผมพอจะแนะแนวทางในการเลือกเรื่องที่จะเขียนให้ได้ครับ ว่าควรเขียนเรื่องอะไรดี


     เรื่องที่ใกล้ตัวเป็นเรื่องที่เขียนง่ายที่สุดเช่น ถ้าที่บ้านเราเป็นร้านอาหาร ก็เขียนเรื่องเกี่ยวกับการทำอาหาร ซึ่งเราจะได้ข้อมูลจากการปฏิบัติจริงมาเขียนได้ หรือที่บ้านเป็นค่ายมวยก็เขียนเกี่ยวกับกีฬามวย หรือถ้าเราเรียนมาทางด้านหมอ ก็เขียนเรื่องเกี่ยวกับหมอหรือเรื่องที่เราเรียนมา เพราะสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเรา เราจะมีข้อมูลมากที่สุด รู้จริงมากที่สุด จากนั้นก็นำมา บวกกับจินตนาการของเราว่าจะแต่งเติมเสริมเรื่องให้มันดูสนุกอย่างไร 
     
เคยมีน้องคนหนึ่งเอางานการ์ตูนมาเสนอ เป็นการ์ตูนเรื่องเกี่ยวกับธาตุทั้ง 4  มีตัวละครที่มีความสามารถแตกต่างกันตามธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ อะไรประมาณนั้น แล้วก็เอามาสู้กัน เป็นการ์ตูนแอ๊คชั่นธรรมดา อ่านดูเนื้อเรื่องแล้วก็ไม่ค่อยสนุกสักเท่าไหร่นัก ผมก็เลยถามน้องไปว่าเรียนอะไรมา น้องบอกว่าเรียน "วิศวะ" มา จริงๆ แล้วก็ไม่แปลกอะไรหรอกนะครับที่เด็กวิศวะจะมาเขียนการ์ตูนพวก 4 ธาตุ แต่ก็แนะนำน้องไปว่า ถ้าน้องลองเขียนเรื่องที่ใกล้ตัวมันน่าจะสนุกกว่านี้ เพราะว่าน้องจะรู้ข้อมูลดีที่สุด รู้ดีกว่าผมด้วยซ้ำเพราะผมไม่ได้เรียนวิศวะมา ถ้าน้องเขียนเรื่องเกี่ยวกับงาน "วิศวะ" เอาแฟนตาซีบวกเข้าไป ใส่เทคโนโลยี่ล้ำหน้าที่เรียนมา เอาไปตลุยในยุคโบราณ ยุคที่ยังไม่ค่อยรู้เรื่องของงาน วิศวะสักเท่าไหร่ สองสิ่งที่แตกต่างกัน มันน่าจะสนุกนะ ก็เลยลองแนะนำคราวๆ ดู

ตัวอย่าง
     เด็กคนหนึ่งเก่งเรื่องวิศวะมาก แต่ดันหลงไปอยู่ยุคโบราณที่ยังไม่มีสิ่งปลูกสร้างถาวรอะไรมากนัก บังเอิญว่าหมู่บ้านแห่งนี้มีเกาะอยู่อยู่ใจกลางหมู่บ้าน ไม่เคยมีชาวบ้านสักคนไปที่เกาะแห่งนั้นได้ เพราะว่ามีแม่น้ำที่ไหลเชี่ยวมาขวางกัน แม้เรือที่ทางหมู่บ้านสร้างขึ้นก็ไม่สามารถทนต่อแรงน้ำที่ไหลเชี่ยวได้ ในฐานนะที่เราเป็นวิศวะ เราน่าจะหาทางสร้างสะพานŽ ข้ามไปได้ การวางแผนสร้างสะพานให้คนในหมู่บ้านที่ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย การหาขนาดไม้ที่จะมาสร้าง การสร้างเสาสะพานที่ต้องทนกับแรงดันของน้ำ การคำนวนแรงดันของน้ำ การสร้างไม้ค้ำยันเพื่อยึดเสาสะพานไม่ให้ล้มเพราะแรงดันน้ำ การหาอุปกรณ์ต่างๆ ที่จะนำมาขึ้นโครงสะพาน การหาอุปกรณ์มาตอกมาย้ำเพื่อทำสะพาน อย่าว่าแต่คนโบราณที่ยังไม่มีความรู้ความสามารถมากนักเลย ตอนนี้ผมก็ไม่รู้หรอกว่ารายละเอียดเหล่านั้นมันต้องอย่างไรบ้างเพราะผมไม่ได้เรียนทางด้านวิศวะมา ผมว่ามันเป็นเรื่องที่น่าสนุกมากนะ ลองจินตนาการฉากคนในหมู่บ้านช่วยกันแบกช่วยกันหาอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อนำไปทำสะพาน มีของบางอย่างที่จะเอามาสร้างสะพานแต่อยู่ลึกเข้าไปในป่าต้องห้าม แต่ชาวบ้านต้องเข้าไปเอาม้นมาให้ได้ การไปปักไม้ในแม่น้ำที่มีน้ำไหลเชี่ยวจนคนในหมู่บ้านปลิวไปกับกระแสน้ำ ฯลฯ และผลสุดท้ายสร้างสะพานสำเร็จคนในหมู่บ้านก็อาจจะเชื่อว่าเราเป็นเทพเทวดาลงมาช่วยเหลือชาวบ้านกลายเป็นตำนานเล่าสืบต่อๆกันมา แล้วการเดินทางก็ไปทีละหมู่บ้าน แล้วก็ไปสร้างสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้องงานทางด้านวิศวะที่คนในยุคนั้นไม่รู้มาก่อนเลย และอีกทางหนึ่ง ก็แต่งเรื่องให้หาวิธีให้คนๆนี้กลับมายังโลกปัจจุบันให้ได้  แต่กว่าจะหาทางกลับโลกปัจจุบันได้ ก็คงเดินทางไปหลายหมู่บ้านแล้ว ถ้าเขียนได้จริงๆ ผมว่าเรื่องนี้ เขียน 5-6 เล่มจบยังได้เลย เพราะฉะนั้นอันดับแรกเลยคือควรเขียนเรื่องที่ใกล้ตัวก่อนเป็นอันดับแรก เพราะว่าเรื่องใกล้ตัวเป็นเรื่องที่เขียนง่ายที่สุดครับ...

 

    แต่บางคนบอกเรื่องใกล้ตัวเป็นเรื่องที่น่าเบื่อมาก ยังจะให้เขียนเรื่องใกล้ตัวอีกเหรอ บ้านเป็นร้านอาหาร ทำกับข้าวทั้งวี่ทั้งวันน่าเบื่อจะตายยังจะมาให้เขียนการ์ตูนเรื่องทำอาหารไม่เอา เบื่อŽ ชีวิตจริงก็เจอเรื่องอย่างนี้ทุกวันอยู่แล้ว เขียนการ์ตูนยังให้มาเจอเรื่องอย่างนี้อีก
    ครับถ้าหากเกิดกรณีนี้ขึ้นมา ลองหันมาเขียนเรื่องที่เราชอบเป็นพิเศษดูก็ดีเหมือนกัน เพราะบางครั้งเรื่องใกล้ตัวอาจจะเป็นเรื่องที่เราไม่ชอบก็ได้ เช่นเคยมีน้องนักเขียนคนหนึ่งเรียนหมอผ่าตัดมา ก็แนะนำให้น้องเขาเขียนเรื่องเกี่ยวกับการผ่าตัด แต่น้องเขาก็บอกว่า พี่หนูผ่าตัดมาทั้งวันเลย เห็นไอ้สิ่งที่มันไม่ค่อยเจริญหูเจริญตาเท่าไหร่เห็นจนไม่อยากเห็นแล้ว ยังมาให้หนูมาเขียนเรื่องผ่าตัดอีกหรือนี่ อยากเขียนเรื่องอื่นที่ไม่ใช่เรื่องผ่าตัดดูบ้าง อยากเขียนเรื่องเกี่ยวกับ "จักรยาน" ดู...
    การเขียนเรื่องที่ชอบแตกต่างกันกับการเขียนเรื่องใกล้ตัวตรงที่ การเขียนเรื่องใกล้ตัวส่วนมากแล้วเราจะมีความรู้หรือข้อมูลในด้านนั้นๆอยู่แล้วเพราะมันอยู่ใกล้ตัวเรา เจอทุกวันเห็นทุกวันทำทุกวันเพราะฉะนั้นเราจะเขียนโดยไม่ยากเท่าไหร่ แต่ถ้าเราเขียนเรื่องที่เราชอบ เราต้องไปหาข้อมูลมาจากแหล่งต่างๆ ในเรื่องนั้นๆ มา ซึ่งก็จะเพิ่มระดับการเขียนอีกระดับหนึ่ง แต่ก็คงไม่ยากเพราะว่าเป็นเรื่องที่เราชอบอยู่แล้ว อย่างเช่นตัวอย่างด้านบนถ้าคุณหมอผ่าตัดท่านนี้อยากเขียนการ์ตูนเกี่ยวกับเรื่อง จักรยาน ก็ต้องไปหาขอมูลของจักรยานมา มีกี่รุ่น กี่ยี่ห้อ แต่ล่ะรุ่นแต่ละยี่ห่อแตกต่างกันอย่างไร อุปกรณ์ต่างๆ ของจักรยานมีอะไรบ้าง ขนาดของวงล้อทำให้การวิ่งเร็วช้าแตกต่างกันอย่างไร ฯลฯ จากนั้นเราถึงเอาข้อมูลตรงนี้ มาผูกเป็นเรื่องตามจินตนาการของเรา

 

ตัวอย่าง
    นางเอกเป็นเด็กมัธยมต้น (ม.4) ด้วยเหตุที่ว่าต้องเข้าชมรมใดชมรมหนึ่งแต่เพราะเป็นเด็กใหม่มาสมัครเข้าชมรมช้า เลยเหลือแค่ชมรมเดียวคือ ชมรมแข่งจักรยาน ด้วยเหตุว่าจำเป็นต้องมีชมรมเข้าเพราะมีหน่วยกิตให้เก็บถึงแม้ต้วเองจะขับจักรยานไม่เก่ง พอเข้าไปในชมรมแล้ว ก็โดนพวกที่อยู่ในชมรมดูถูกหาว่า ขี่จักรยานยังไม่เป็นดันมาเข้าชมรมจักรยาน ด้วยกลัวขายหน้าว่าตัวเองมาสายไม่มีชมรมให้เข้า และเป็นคนไม่ชอบคนที่ชอบดูถูกคนอื่น    จึงท้าแข่งจักรยานกับเพื่อนในชมรมไปว่า จากนั้นนางเอกก็ต้องไปฝึกขับจักรยานล้มลุกคลุกคลาน จนวันหนึ่งด้วยเหตุบังเอิญต้องมาเจอกับพระเอกซึ่งเป็นเด็กต่างโรงเรียนเป็นนักแข่งจักรยานด้วย เข้ามาช่วยปรับแต่งจักรยานให้ จนนางเอกขับเป็นและขับเก่งขึ้นมา จนถึงวันแข่งจริง นางเองถูกเยาะเย้ยว่าฝึกมาแค่เวลาสั้นๆ จะสู้ได้เหรอ และระหว่างทาง นางเอกอาจเกิดเหตุที่ทำให้แขนข้างหนึ่งไม่อาจจะใช้งานได้นางเอกต้องขับมือเดียว (ใส่ดราม่าเข้าไป สร้างแรงกดดันเข้าไป) จนคนอ่านต้องคาดเดาหรือคอยเป็นกำลังใจให้นางเอกตลอด มันจะชนะไหมนี่ ขี่ก็ไม่เก่ง ฝึกก็น้อย แถมต้องมาขี่มือเดียวอีก อะไรประมาณนี้ มันจะทำให้ผู้อ่านอยากอ่านอยากติดตามมากขึ้น อาจจะตบปัญหานี้ด้วยว่า รถของนางเอก เป็นรถที่พระเอกปรับแต่งมาให้เป็นกรณีพิเศษอยู่แล้ว จึงสามารถช่วยตรงนี้ได้ในระดับหนึ่ง บวกกับความอดทนและใจสู้ของนางเอก แม้ขี่มือเดียว ก็สามารถนำพาจักรยานเข้าสู่เส้นชัยอย่างฉิวเฉียดคู่ต่อสู้ไปเพียงเซนเดียวเท่านั้น อะไรประมาณนี้
    

 

    หากเรื่องที่อยากจะเขียนไม่ใช่เรื่องใกล้ตัว ไม่ใช่เรื่องที่ชอบหรือสนใจเป็นพิเศษ ก็ยังมีอีกหัวข้อหนึ่งที่สามารถนำมาเขียนเป็นเรื่องได้นั้นก็คือ เรื่องที่กำลังฮิตอยู่ในขณะนั้น หรือเรื่องที่กำลังได้รับความสนใจอยู่ในขณะนั้น อย่างเช่น ตอนนี้เขาฮิตเล่น การ์ดเกม กัน เราก็เขียนการ์ตูนเรื่องการ์ดเกมก็ได้ หาข้อมูลมาแล้วนำมาเขียนแต่งเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา หรือ ตอนนี้เขาฮิตเล่น ไลน์ เล่น เฟสบุ๊ค กัน ก็เอาตรงนี้มาแต่งเป็นการ์ตูนก็ได้ เป็นแบบ "สื่อรักออนไลน์Ž" หรือ  "ออนไลน์แบทเทิล" หรือ "นักเลงคีย์บอร์ดŽ"  หรืออยากเขียนเรื่องที่กำลังได้รับความสนใจในปัจจุบัน เช่นสมมุตว่าอีก 2-3 เดือนข้างหน้าจะมีมหกรรมฟุตบอลโลกเกิดขึ้น เรามาเขียนการ์ตูนเกี่ยวกับฟุตบอลกันดีกว่า หรือกีฬาวอลเล่ย์บอลของเราไปได้แชมป์มาคนกำลังกล่าวถึงเยอะ อืม วาดเรื่องเกี่ยวกับกีฬาวอลเล่ย์บอลดีกว่า หรือว่า ตอนนี้คนนิยมเปิดร้านขายกาแฟกันเยอะ เราเขียนเรื่องเกี่ยวกับร้านกาแฟดีกว่า (ตัวอย่างเรื่อง CaffežRosa ของคุณ ด๊าส ก็นำเรื่องเกี่ยวกับร้านกาแฟมาเขียนเป็นการ์ตูนจนได้รับรางวัล เซเว่นบุ๊คอวอร์ดปี2557 ที่ผ่านมา)

 

การ์ตูนเรื่อง  Caffe'Rosa  ผลงานของคุณ อดิศักดิ์ ด๊าส พงษ์สัมพันธ์ ที่หยิบยกเรื่องราวของร้านขายกาแฟ  ที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้  นำมาเขียนเป็นการ์ตูน จนได้รับรางวัล เซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประจำปี 2557 ที่ผ่านมา

 


    หากเรื่องที่คุณคิดจะเขียน จาก 3 หัวขอที่ผ่านมายังไม่ตรงใจคุณอีก ก็ยังมีข้อให้คุณเลือกอีกข้อหนึ่งครับ คือเลือกเขียนเรื่อง จากการที่ได้ยิน ที่ได้อ่าน และที่ได้ดู
เรื่องที่เกิดจากการที่ได้ฟัง
    บางที่เราไปเดินตลาด หรือไปเดินห้างสรรพสินค้า หรือไปเดินตามสวนสาธารณะหรือในสถานที่ต่างๆ ได้ยินคนนู้นคนนี้คุยกันถึงเรื่องราวที่เป็นเหตุการณ์ปัจจุบัน หรือเป็นเรื่องเล่า ที่มีผู้เล่าให้เราฟัง ก็สามารถนำมาเขียนเป็นเรื่องได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล่าเรื่องผี หรือเรื่องเล่าจากประสบการณ์ตรงของผู้เล่า ก็สรุปได้ว่า หากว่าเราไปได้ยินหรือได้ฟังเรื่องที่เราคิดว่า มันน่าสนใจดี เราก็สามารถนำเรื่องที่เราได้ยิน มาจิตนาการเสริมต่อให้เป็นเรื่องราวได้
เรื่องที่เกิดจากการอ่าน
    นักเขียนที่ดี ควรเป็นนักอ่านที่ดีด้วย เห็นอะไรอ่านหมด หนังสืออะไรอ่านหมด อ่านทุกประเภท หนังสือพระ หนังสือปืน หนังสือวัยรุ่นหวานแววแต๋วจ๋า นิยาย การ์ตูน หนังสือทำอาหาร หนังสือช่าง โบว์ชัว แผ่นผับ ป้ายโฆษณา ใบปลิว เพราะสิ่งที่เราอ่านพวกนี้ มันจะเป็นข้อมูลสำคัญ เพื่อจุดประกายให้เราคิดเรื่องที่อยากจะเขียนได้ง่าย บางที่หากเราชอบเรื่องอะไร ก็หาหนังสือ หรือสื่อของสิ่งนั้นมาอ่านมากๆ ถือเป็นการเก็บข้อมูลโดยตรงก่อนที่จะนำมาร้อยเรียงเขียนเป็นเรื่องขึ้นมา
เรื่องที่เกิดจากการดู
    ครับเรื่องที่อยากนำมาเขียนเป็นการ์ตูน กับ ภาพยนตร์นี้เป็นอะไรที่คลายกันมาก เพราะฉะนั้น ดูไปเถอะครับภาพยตร์ ดูมันทุกประเภทนั้นแหละ บู้ ตลก ดราม่า สารคดี รายการทีวี เกมโชว์ หนังแผ่น หนังโป้ (อันนี้ก็ดูได้ถ้าอยากเขียนการ์ตูนพวกติดเรท) แนะนำให้ดูทุกประเภท อย่าดูอย่างใดอย่างหนึ่งอย่างเดียว อาจจะดูในเรื่องที่ชอบมากหน่อยอันนี้ไม่เป็นไร แต่ควรดูแนวอื่นๆด้วย เพราะว่าทุกอย่างที่เราดูมันจะถูกนำมาเป็นข้อมูลได้ทั้งหมด เราจะเห็นว่าคิดเรื่องอย่างนี้ดีนะ คิดเรื่องอย่างนี้ไม่ดี เรื่องนี้ห่วยแตกมาก ถ้าเราจะเขียนเรื่องอย่างนี้ จะไม่แต่งให้เป็นแบบนี้เด็ดขาด อู้ยเรื่องนี้ดีจังอยากแต่งเรื่องให้ได้ดีอย่างนี้จัง  เราก็สามารถนำมาเป็นแบบอย่างหรือถ้าเรียกให้เก๋ๆ ก็คือ แรงบันดาลใจŽ ได้นั้นเอง
    
    แต่หากว่า  4 หัวข้อที่แนะนำมาแล้วยังไม่ชอบ ยังไม่ถูกใจอีก"ขอแนะนำให้เลิกคิดจะเขียนการ์ตูนได้เลยครับ"เพราะว่า ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ คุณไม่เหมาะที่จะเป็นนักเขียนการ์ตูนเลยด้วยซ้ำ เลิกเถอะครับ จะได้ไม่ต้องปวดหัว เปลืองแรงเปล่าๆ เชื่อผมเถอะ
    
    สำหรับบทนี้ เราก็จะได้เรื่องที่เราอยากเขียนแล้วนะครับ ต่อไปเราจะมาคุยกันเรื่อง "เริ่มต้นเขียนเรื่องอย่างไร"Ž และตามด้วย "เขียนเรื่องอย่างไรให้สนุก"Ž ติดตามต่อบทหน้านะครับ

 

"ความฝัน มันจะไม่สามารถเป็นจริงขึ้นมาได้เลย ถ้าเรายังไม่ลงมือทำ"

----------------------------------------------------------------------------------------------------

นอกเรื่อง 1
อ่านเสร็จแล้ว  หากชอบใจ ช่วยกด "ถูกใจ" แต่หากติดใจช่วยกด "ติดตาม" ให้ด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ

นอกเรื่อง 2
ไม่มีภาพประกอบเลย ใครว่างเขียนให้หน่อย เดี่ยวลงเครดิตชื่อให้

นอกเรื่อง 3
ใครยังไม่เคยอ่าน "บทนำ" เข้าไปอ่านตามลิงก์นี้ได้เลย
http://www.wecomics.in.th/blogs/detail-page/50

ใครยังไม่เคยอ่าน "บทที่ 1 ตอนที่ 1 : มารู้จักคำว่า "การ์ตูน" กันก่อน" เข้าไปอ่านตามลิงก์นี้ได้เลย
http://www.wecomics.in.th/blogs/-1/detail-page/86

 

 


 

 

ประเภท: บันทึก

บล็อกที่น่าจะชอบ

09/06/2016
[Character Drama CD ยมจัง แอนด์ เดอะ แก๊ง]'ทัณฑธร/ทัณฑ์'Character Voice : RE:VISฟังเสียงนายท่าน : https://soundcloud.com/redcarpetsiam/character-drama-cd-4คนที่ 6 ได้แก่ นายท่านทัณฑ์จอมซาดิสม์ ได้นักพากย์หน้าใหม่ใสกิ๊งมาพากย์ให้ ขอบคุณน้องไอติมมากๆ เลยนะค
19/09/2017
ในทุกๆปี ก็จะมีอนิเมะแนวสาวน้อยเวทมนตร์มาให้เราได้ดูกันเยอะแยะไปหมด แต่แอดเชื่อมั่นว่าเรื่องที่ยังคงอยู่ในใจเราคงหนีไม่พ้นแต่ละเรื่องที่แอดลิสต์มาให้ดูแน่นอน มาดูกันว่าเราเกิดทันยุคไหนกันบ้าง จริงๆก็ไม่ได้แก่หรอก เห็นคุณแม่ดูก็เลยดูตามบ้างอะไรบ้าง บางเรื่
24/04/2017
Blog นี้เอาใจสาวๆ ที่ชอบหนุ่มๆ สายรับ (เอ๊ะ) หมายถึงหนุ่มๆ หน้าแบ๊วแป๊วแว้ว น่าเลี้ยง (เอ๊ะ !!!) หมายถึง “หนุ่มเคะ” น่ารัก น่าดูแลนี่แหละ สำหรับคนที่ยังงงๆ หรือสับสนกับคำว่า เคะ เมะ อธิบายสั้นง่าย ได้ใจความแบบนี้ละกันว่า攻める (semeru) = โจมตี (รุก) >>> เซเม
20/06/2016
[Character Drama CD ยมจัง แอนด์ เดอะ แก๊ง]'นกน้อย'Character Voice : AlivePoolzฟังเสียงนกน้อย : https://soundcloud.com/redcarpetsiam/character-drama-cd-6นกน้อย ถือว่าเป็นตัวละครที่มีคาแรกเตอร์ประจำตัวสูงตัวหนึ่งในเรื่อง และมีโมเดลเป็นของตัวเองอีกด้วย (สนใจ
ส่ง
ความคิดเห็น ()