เคยมีคนมาถามวิธีการทำงานของแนน ซึ่งไม่รู้เหมือนกันว่าจะเหมือนๆ กันไหม โดยปกติแนนก็นั่งลักจำคนอื่นมาอีกทีเช่นกัน แต่โดยสรุปมีดังนี้จ้า...

1. เอกสาร
สิ่งที่ฟรีแลนซ์ควรมีเมื่อทำงานเป็นกระบวนการที่ทำให้ลูกค้าไว้ใจคือ...การมีเอกสาร อันได้แก่

- สัญญาจ้าง รายเดือน รายชิ้น แบ่งแยกย่อยเป็น
- เอกสารหลักฐานการชำระ ใบเสนอราคา(บ.ใหญ่ๆเขามักขอ) จนกระทั่งควรมีใบปิดงาน(ให้ลูกค้าอุ่นใจทั้งเขาและเรา)
- ถ้าลูกค้า SME รายย่อย จ่ายน้อย เราไม่รับมัดจำ อาจจะขอจ่ายเต็ม (ดูราคากันไป)แต่จะมีหลักฐานหลังจ่ายเช่นกันเป็นเอกสารหรือปริ้นหน้าเพจเว็ปแบงค์ส่งให้ว่าเงินเข้าแล้วนะพร้อมเซ็นต์กำกับว่าเราได้ส่วนนี้มาเพื่ออะไรทุกครั้ง


2. พอร์ต
พอร์ตที่ควรมีคือพอร์ตงานแยกประเภทไว้ซึ่งต้องเป็นงานที่เสร็จและปิดงานได้ ไม่ใช่งานสเกต... เพราะนั่นจะบ่งบอกถึงการปิดงานไม่จบ
ทำไมถึงเป็๋นเช่นนั้น ลูกค้าหรือบุคคลทั่วไปเขาไม่มามองขั้นตอนก่อนเสร็จหรอกเขาจะมอง ณ ปัจจุบัน ณ ตรงๆ นั้น ใช่...ถ้าพอร์ตเราไปทิศทางใดเขาก็จะว่าเราไปแบบนั้นแบบนี้เช่นกัน การแยกประเภทเป็นสิ่งสำคัญ สเกล ควอลิตี้ที่รับ แยกให้ชัดเจน

หาเว็ปแยกหรือหาบล็อกเว็ปทำแยกไว้อีกทีและแน่นอนการจัดหน้าเพจเว็ป(บล็อก)ของตนเองให้สวยงามก็บ่งบอกถึงการโฆษณาได้เช่นกันคล้ายหน้าวารสารนิตยสารนะแหละค่ะ ซึ่งแน่นอนมันเป็นสไตล์ใครสไตล์มัน


3. การคุยงาน
ไม่ว่าจะคุยหรือพิมพ์สิ่งที่ควรมีคือการจดบันทึกหรืออะไรก็ได้ใช้บันทึกทุกวินาทีและบทความในการคุยสรุปย่อ เพื่อการสโคปงานที่ชัดเจนของเรา สิ่งที่เราควรฟังไม่ว่าอะไรก็ตาม เนื้อหาใจความสำคัญเลย

3.1 concept หรือ เทค ด๊อกคิวเม้น เนื้องานที่เขาต้องการสิ่งที่นักฟังต้องฟังคือเขาเล่าอะไรที่เราทำได้ส่วนเรื่องที่เขาเล่าเลยไปกว่านอกเหนือจากการควบคุมของเราเช่น เขาเล่าความฝัน เพ้อเจ้อในอนาคต หรือ ร่ายยาวไปจนกระทั่งดราม่าต่างๆนาๆนั้นคือน้ำที่เราไม่ควรจำ จนกระทั่ง สูตรที่บอกว่าอยากได้แบบนั้นแบบนี้มากมายระดับโลก? ซึ่ง ในจุดนี้ต้องมาดูในข้อต่อไป...

3.2 เวลาและการแก้ไขที่ควรจะเป็น ความเหนือและเด็ดขาดเลยถ้าต่างฝ่ายต่างไม่พูดถึงเวลาก่อน เราจะถามก่อนว่ามีเดดไลน์ไหม แต่ถ้าเกิดกรณีเขามีก็ตามกำหนดเขาไปซึ่งต้องดูความเป็นไปได้ของเราด้วยว่าไหวไม่ไหว ที่จริงในส่วนนี้เราสามารถถามเขาตั้งแต่ตอนข้อ1ผสมโรงไปแต่ถ้าในการคุยนั้นเขาถามถึงเวลาของเราสิ่งที่เราควรคำนวณ ณ เวลานั้น คือเราต้องสามารถบอกได้เลยหรือถ้าคิดไม่ทันจริงๆ(ถ้าเป็นงานที่จำนวนมากระยะยาว)เราสามารถจะยืดยุ่นเขาได้โดยการบอกว่าขอจัดตารางเวลาทางเราจะให้คำตอบภายในเย็นนี้ไม่ก็พรุ่งนี้ และเราก็มานั่งคำนวณในเวลานั้นนั่นเอง
     
3.3 ราคางาน จะเกิดขึ้นต่อเมื่อรู้ทั้ง concept และ เวลาที่แน่นอน เราจึงจะสามารถคำนวณได้ เมื่อเราตีราคาแล้วอย่าลืมชี้แจงเป็นข้อๆด้วยว่าส่วนนี้คือราคาส่วนต่างตรงนี้ตรงนั้น(ในกรณีงานนั้นมีรายละเอียดมาก เช่นวาดฉาก วาดตัวละคร วาดอาวุธ...) แต่ถ้าเป็นงานที่มีรายละเอียดไม่มากเราก็ชี้แจงพอสังเขปเช่น ป้าย โลโก้ โบรชัวร์ แยกกันไปหรือเหมา สรุปยอดจ่าย(ถ้าจำนวนเงินเยอะ) ชี้แจงจนลูกค้าไม่จำเป็นต้องคิดเยอะเพราะเราคิดให้เสร็จสรรพ
     
3.4 แน่นอนเราอาจจะเจอลูกค้า SME รายใหม่ที่มีงบน้อยแต่อยากได้งานเรา เราสามารถต่อรองในส่วนนี้ได้สองทาง ถ้าเราอยากได้ราคาที่เราเสนอเราก็อธิบายขั้นตอนจนเขาเกรงใจยอมจ่ายหรือลดลงมาจากเรานิดหน่อย แต่ถ้าเขาไม่กล้าบอกเราก็แค่ถามงบไปว่ามีเท่าไหร่ ถ้าเขาชี้แจงงบมามีเท่านี้แบบพอรับได้เราก็ต่อรองเรื่องการแก้ไขที่น้อยลงหรือการแก้ไขที่ไม่มีเลยจนกระทั่งไฟล์ที่ได้รับอาจจะได้ในแบบที่พอใช้งานได้ในระดับหนึ่งซึ่งพอใจทั้งสองฝ่ายเป็นต้น

หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกๆคน

ป.ล.ฝากข้อความแล้วก็ฝากเว็ปของตนเอง (โฆษณา)

http://nanshu29art.blogspot.com/